ตลาดหุ้นเอเชียซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (9 ก.ย.) ดิ่งลงอย่างหนัก เช่นเดียวกับราคาน้ำมัน ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา หลังแรงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ฉุดตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน และบริษัทยารายใหญ่ อย่าง แอสตราเซเนกา ประกาศระงับการทดลองวัคซีนต้านโควิด
ดัชนีนิกเคอิ ของญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 22,928.13 จุด ร่วงลง 346.00 จุด หรือ 1.49% ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงที่ 24,319.89 จุด ดิ่งลง 304.45 จุด หรือ 1.24% ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีน ที่ 3,271.89 จุด ลดลง 44.53 จุด หรือ 1.34% และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ ที่ 2,492.87 จุด ลบ 11.89 จุด หรือ 0.47%
ขณะที่ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (8 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ที่ 27,500.89 จุด ลดลง 632.42 จุด หรือ 2.25% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,331.84 จุด ลดลง 95.12 จุด หรือ 2.78% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 10,847.69 จุด ลดลง 465.44 จุด หรือ 4.11%
ตลาดได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากการที่ “แอสตราเซเนกา” ผู้ผลิตยารายใหญ่ สัญชาติอังกฤษ ประกาศประกาศระงับการทดลองใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 หลังจากผู้เข้าร่วมทำการทดสอบรายหนึ่งล้มป่วยโดยไม่สามารถอธิบายสาเหตุได้ สถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่า การวางจำหน่ายวัคซีนต้านโรคโควิด-19 อาจจะถูกเลื่อนออกไป
แถลงการณ์ของ แอสตราเซเนกา บอกด้วยว่า การตัดสินใจระงับการทดลอง ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทีมนักวิจัยมีเวลาในการตรวจสอบข้อมูลด้านความปลอดภัย โดยทางบริษัทจะยังคงรักษาความโปร่งใส และตรงไปตรงมาในการทดลองวัคซีน
ที่ผ่านมา วัคซีน AZD1222 ซึ่งแอสตราเซเนกากำลังพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดนั้น ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในวัคซีนที่มีความหวังว่าจะนำเข้าสู่ตลาด แต่การที่บริษัท ตัดสินใจระงับการทดลองในครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบต่อความพยายามของทางบริษัทเอง และหลายประเทศทั่วโลก ที่ต้องการจะควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
การซื้อขายวันนี้ ยังเจอกับแรงกดดัน จากการเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างสหรัฐ และจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า จะลดระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐ และจีน พร้อมกับขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีบริษัทสหรัฐ ที่ออกไปสร้างงานในจีน และประเทศอื่นๆ อย่างหนัก
ทางด้านราคาน้ำมันดิบ ในตลาดเอเชีย ช่วงเช้าวันนี้ ยังดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความต้องการพลังงานโลกที่ซบเซา และการจัดหาที่ล้นเกิน
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ล่าสุด อยู่ที่ 39.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 0.53% ขณะที่ราคาน้่ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ปรับลงมา 0.68% ที่ 36.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนตุลาคม ร่วงลง 3.01 ดอลลาร์ หรือ 7.6% ปิดที่ 36.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ กำหนดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ร่วงลง 2.23 ดอลลาร์ หรือ 5.3% ปิดที่ 39.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิด 3 เสาหลัก สร้าง ‘เมืองอัจฉริยะ’ รับเทรนด์ มหานคร – ดิจิทัลไลเซชั่น
- ลุ้น! แอปเปิลเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 15 ก.ย. บอกใบ้ ‘Time flies’
- ครม.ยังไม่เคาะแจกเงิน 3000 บาท ‘บิ๊กตู่’ ชี้ต้องพิจารณารอบคอบ!
