แอปเปิลเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่พร้อมกันถึง 3 รุ่น เมื่อวันพุธที่่ผ่านมา (12 ก.ย.) ท่ามกลางความกังขาถึงทิศทางของบริษัทในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีน ตลาดที่กำลังถูกครอบงำด้วยแบรนด์สมาร์ทโฟนท้องถิ่นที่มีราคาถูก
ในความพยายามที่จะหาแรงหนุนสร้างการเติบโตนอกตลาดผู้บริโภคกลุ่มไฮเอนด์นั้น แอปเปิลได้เปิดตัวไอโฟนเอ็กซ์ อาร์ สำหรับตลาดระดับล่างลงมา ควบคู่ไปกับรุ่นพรีเมียมอย่าง ไอโฟนเอ็กซ์เอส และเอ็กซ์เอส แม็กซ์
แต่ราคาที่ตั้งไว้ 749 ดอลลาร์นั้น ทำให้นักวิเคราะห์ชี้ว่า จะจำกัดความต้องการไอโฟนรุ่นนี้ในตลาดเกิดใหม่ ที่ผู้บริโภคมักจะซื้อมือถือราคาไม่เกิน 700 ดอลลาร์
ทั้งนี้ นับเป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่จีน ตลาดสมาร์ทโฟนขนาดใหญ่สุดของโลก กลายเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตของแอปเปิล แต่ไอโฟนก็ยังครองส่วนแบ่งในตลาดนี้ได้เพียงแค่ 10% เท่านั้น จากการที่บริษัทประสบปัญหาในการขยายธุรกิจ
ข้อมูลจากคานาลิส บริษัทวิจัย แสดงให้เห็นว่า ผู้เล่นท้องถิ่น อย่าง หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ออปโป้ วีโว่ และเสี่ยวหมี่ กลายเป็น 4 บริษัทที่มียอดขายสมาร์ทโฟนสุงสุดในจีน ช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ครองส่วนแบ่งตลาดรวม 82%
แรงขับเคลื่อนที่คล้ายคลึงกันนี้ ปรากฏให้เห็นในตลาดเอเชียอื่นๆ เช่นกัน อย่าง ในอินเดีย ตลาดสมาร์ทโฟนรายใหญ่สุดอันดับ 2 ของโลก ด้วยจำนวนผู้ใช้งาน 300 ล้านคนนั้น แอปเปิลมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 2% เท่านั้น ขณะผู้นำตลาด 3 รายใหญ่สุดเป็นค่ายมือถือจากจีน ทั้งเสี่ยวหมี่ วีโว่ และออปโป้ ที่รวมกันแล้วครองส่วนแบ่งตลาดราว 50%
“สำหรับแอปเปิลแล้ว ถือว่ามียอดขายที่น้อยมากในตลาดนี้ เมื่อเทียบกับเซคเมนท์สำหรับผู้คนฐานะร่ำรวยมากในสังคม” อาร์วินด์ สิงหล ประธานกรรมการบริหารเทคโนแพค บริษัทที่ปรึกษาด้านค้าปลีก ในอินเดีย กล่าว
เขาบอกด้วยว่า ไอโฟนรุ่นใหม่อาจจะไม่ได้รับความสนใจมากนักในอินเดีย ตลาดที่ไอโฟนเอ็กซ์วางจำหน่ายในราคาประมาณ 100,000 รูปี หรือ 1,377 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าแพงมาก เทียบกับค่าแรงของชาวอินเดียส่วนใหญ่ที่ได้ไม่ถึง 2,000 ดอลลาร์ต่อปี
ในตลาดเกิดใหม่ขนาดใหญ่ 5 ตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเวียดนามนั้น ระหว่างปี 2556-2560 แอปเปิลมีส่วนแบ่งตลาดร่วงลงจากระดับ 6.5% มาอยู่ที่ 4.5% ตรงข้ามกับค่ายคู่แข่งจากจีน รวมถึง ออปโป้ วีโว่ และหัวเว่ย ที่ต่างมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ระดับ 0.3% ไปจนถึง 29.6% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ผู้ใช้มือถือบางรายบอกว่า นอกจากเรื่องราคาแล้ว มือถือจากฝั่งจีนยังมีนวัตกรรมที่สร้างความพอใจให้กับคนท้องถิ่นมากกว่าไอโฟน
“ออปโป้ไม่ได้ราคาถูกแต่เพียงอย่างเดียว แต่กล้องยังถ่ายรูปดีกว่าไอโฟนมาก ภาพที่ถ่ายกับไอโฟนนั้นดูเหมือนจริงจนเกินไป ทำให้ผมถ่ายรูปออกมาแล้วดูไม่ดีนัก” เสก พ่อค้าขายอาหารในกรุงเทพมหานคร วัย 27 ปีกล่าว โดยเขาเพิ่งซื้อออปโป้ รุ่นอาร์9เอส มาใหม่ ในราคา 10,900 บาท หรือ 330 ดอลลาร์
แม้กระทั่งในประเทศร่ำรวยอย่าง สิงคโปร์ ที่แอปเปิล และซัมซุง คู่แข่งสัญชาติเกาหลีใต้ เคยครองส่วนแบ่งตลาดร่วมกันมากกว่า 70% นั้น แบรนด์มือถือจากจีนก็กำลังเข้ามาแย่งชิงพื้นที่ไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ จากการที่นำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใส่ไว้ในมือถืออย่างรวดเร็ว
ข้อมูลจากจีเอฟเค สถาบันวิจัยตลาดจากเยอรมนี แสดงให้เห็นว่า ช่วงเดือนมกราคม – สิงหาคม 2560 ยอดขายสมาร์ทโฟนจีนในตลาดสิงคโปร์ พุ่งสูงกว่า 20% เป็นครั้งแรก จากระดับ 15% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านั้น
นอกจากจะเติบโตช้าลงแล้ว แอฟเปิลยังต้องรับมือกับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐ กับจีน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่สุดของบริษัททั้งคู่
ที่มา: NHK
