ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ (12 ก.ย.) ตามการทะยานขึ้นของตลาดสหรัฐเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) ที่ได้รับแรงหนุนจากขาขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน จากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
ดัชนีนิกเคอิ เปิดตลาดปรับตัวขึ้นมา 0.12% หรือ 28.31 จุด มาอยู่ที่ 22,693.00 จุด ก่อนที่จะขยับตัวลงเล็กน้อยเคลื่อนไหวล่าสุดลดลง 74.32 จุด หรือ 0.32% ที่ 22,592.43 จุด
ส่วนเงินดอลลลาร์เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 111.52 เยนต่อดอลลาร์ เทียบกับ 111.57 เยน ในตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้
เทรดเดอร์ชี้ว่า ความขัดแย้งทางการค้ายังเป็นปัจจัยหลักที่กดดันตลาดอยู่ ซึ่งความกังวลในเรื่องนี้ รวมถึง ความเสี่ยงของการเกิดสงครามการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ 2 ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลก ความเป็นไปได้ในข้อตกลงระหว่างสหรัฐ กับสหภาพยุโรป (อียู) ที่กำลังเจรจากันอยู่ หรือความสัมพันธ์ในอนาคตของทั้ง 2 ฝ่าย หลังจากเบร็กซิท
ส่วนหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,971.06 จุด เพิ่มขึ้น 113.99 จุด หรือ 0.44% ขณะที่ดัชนี เอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,887.89 จุด เพิ่มขึ้น 10.76 จุด หรือ 0.37% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,972.47 จุด เพิ่มขึ้น 48.31 จุด หรือ 0.61%
ตลาดได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นเทคโนโลยี นำโดยหุ้นแอปเปิล ก่อนที่ทางบริษัทจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ iPhone X ใหม่ 3 รุ่นในวันนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นขานรับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นกว่า 2%
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยรายงานล่าสุดระบุว่าจีนเตรียมขออนุมัติจากองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) เพื่อทำการคว่ำบาตรสหรัฐ
น้ำมันพุ่งแรง
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น หลังจากสำนักงานสารนิเทศพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ และยังได้ปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันในสหรัฐด้วยเช่นกัน
นักลงทุนยังจับตาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากพายุเฮอร์ริเคน “ฟลอเรนซ์” รวมทั้งรายงานสต็อกน้ำมันดิบซึ่งทางการสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส กำหนดส่งมอบเดือนตุลาคม พุ่งขึ้น 1.71 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 69.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 1.69 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 79.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อีไอเอ ประเมินว่าราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส โดยเฉลี่ยในปี 2561 จะอยู่ที่ระดับ 67.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.2% จากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนสิงหาคม ส่วนในปี 2562 นั้น คาดว่าราคาโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 67.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 4.7% จากการคาดการณ์ครั้งก่อน
ขณะเดียวกัน ได้ปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐลง 0.2% สู่ระดับ 10.66 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ และปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบในปีหน้า ลง 1.8% สู่ระดับ 11.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ทองปิดบวก
ราคาทองคำในตลาดนิวยอร์ก ปิดบวก 2.4 ดอลลาร์ เหตุวิตกข้อพิพาทการค้าหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 2.4 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,202.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้ารายต่างๆ รวมถึง ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟตา) ฉบับใหม่ ระหว่างสหรัฐและแคนาดาที่ยังไม่มีบทสรุป
อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น สร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.11% แตะระดับ 95.24 เมื่อคืนนี้
โดยปกติแล้ว ราคาทองคำและดอลลาร์จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงข้ามกัน โดยเมื่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ราคาทองคำจะปรับตัวลดลง เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่าทำให้ทองคำ ซึ่งกำหนดราคาในรูปของสกุลเงินดอลลาร์ มีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
