นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ผู้นำญี่ปุ่น เอ่ยปากขอโทษต้องละทิ้งตำแหน่ง ทั้งที่ประเทศยังมีปัญหา และมีนโยบายที่ยังค้างคาอยู่ หลังประกาศลาออก เพราะปัญหาด้านสุขภาพ
ชินโซ อาเบะ ประกาศการตัดสินใจลาออก ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อช่วงเย็นวันนี้ (28 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยบอกว่า เขาไม่ต้องการให้อาการป่วยของตัวเอง กลายมาเป็นอุปสรรคสำหรับการตัดสินใจ และต้องขอโทษประชาชนชาวญี่ปุ่น ที่เขาไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งจนครบวาระได้
ผู้นำวัย 65 ปีของญี่ปุ่นรายนี้ ป่วยเป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรังมานานหลายปีแล้ว ซึ่งเขาบอกว่า ระยะหลังมานี้ เริ่มมีอาการรุนแรงขึ้น ซึ่งการลาออกของนายอาเบะเกิดขึ้นหลังเมื่อปีที่แล้ว เขาเพิ่งกลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น โดยทำหน้าที่มาตั้งแต่ปี 2555
นายอาเบะบอกด้วยว่า ปัญหาสุขภาพของเขาควบคุมมาได้โดยตลอด จนมาถึงช่วงต้นปี และพบว่า มีอาการแย่ลงมากขึ้นในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อเขาเข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี
“ด้วยอาการเจ็บป่วย และการใช้เวลาในการรักษา รวมถึง สภาพร่างกายที่อ่อนแอ ผมจึงตัดสินใจว่า ไม่ควรที่อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป ในเมื่อไม่สามารถทำตามที่ประชาชนคาดหวังไว้ ด้วยความเชื่อมั่นได้”
ก่อนหน้านี้ ในปี 2550 นายอาเบะเคยลาออกจากตำแหน่งอย่างกะทันหันมาแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องจากอาการลำไส้อักเสบเรื้อรังซึ่งเขาเป็นมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น
นายอาเบะเป็นที่รู้จักกันในฐานะผู้นำที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม และชาตินิยมอย่างแรงกล้า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่เขาทำถูกเรียกขานว่าเป็น “อาเบะโนมิกส์”(Abenomics)
เขาได้พยายามพัฒนาฝ่ายกลาโหมให้แข็งแกร่งขึ้น ด้วยการเพิ่มงบประมาณด้านการทหาร แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 9 ที่ห้ามญี่ปุ่นมีกองทัพ เพื่อจุดประสงค์อื่นนอกเหนือไปจากการป้องกันตัวเอง
“ผมตัดสินใจแล้วว่าไม่ควรจะทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อ” นายอาเบะ กล่าว
“ผมอยากจะขอโทษอย่างจริงใจต่อประชาชนชาวญี่ปุ่น ที่ต้องละทิ้งตำแหน่ง ทั้งที่เหลือเวลาอยู่อีกหนึ่งปีกว่าจะครบวาระ และท่ามกลางปัญหาการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และขณะที่นโยบายต่าง ๆ ยังอยู่ในกระบวนการเตรียมประกาศใช้”
อย่างไรก็ตาม นายอาเบะกล่าวว่า จะยังคงอยู่ในตำแหน่งต่อไป จนกว่าจะมีการสรรหาผู้จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ สืบต่อจากตัวเขา
ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ปัญหาสุขภาพของนายอาเบะ เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในญี่ปุ่น หลังจากเขาเข้ารับการตรวจร่างกาย ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเคโอ ในกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา และยังมีการตรวจติดตามผลอีกครั้ง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (24 ส.ค.)
การเข้ารับการตรวจร่างกายข้างต้น ยังเกิดขึ้น หลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของผู้นำญี่ปุ่น เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สถานการณ์ที่ทำให้เกิดความกังวลภายในพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ของนายอาเบะว่า เขาอาจจะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้นำประเทศต่อไปไม่ได้ จนจุดชนวนให้เกิดกระแสคาดการณ์อย่างหนักถึงบุคคลที่จะมาสืบทอดอำนาจต่อจากเขา
นักวิเคราะห์ ชี้ว่า การลงจากตำแหน่งของนายอาเบะ อาจจะให้ทำให้เกิดภาวะสุญญากาศขึ้นภายในพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) พรรครัฐบาลของญี่ปุ่น ในช่วงเวลาที่ประเทศ กำลังเผชิญกับปัญหาหลายด้าน
ทั้งนี้ นายอาเบะ ซึ่งมีฉายาว่า “เจ้าชาย” เติบโตขึ้นมาจากตระกูลทางการเมือง โดยเขาเป็นบุตรชายของนายชินทาโร อาเบะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น และเป็นหลานของ นายโนบุสุเกะ คิชิ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
เขาได้รับเลือกเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งแรก เมื่อปี 2536 ก่อนที่ในปี 2548 จะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ในสมัยอดีตนายกรัฐมาตรจุนอิชิโร โคอิซูมิ
นายอาเบะ ยังสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดของญี่ปุ่น ยุคหลังสงคราม เมื่อเขาขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรก ในปี 2549
หลังจากที่ต้องลาออกจากตำแหน่งในปี 2550 เพราะปัญหาด้านสุขภาพ นายอาเบะ ได้รับเลือกกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ในปี 2555 โดยครั้งนั้น เขาบอกว่า สามารถเอาชนะโรคได้แล้ว
จากนั้น เขาได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น มาเรื่อยๆ หลังจากหมดวาระการดำรงตำแหน่ง ทำให้เขากลายเป็นนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ในตำแหน่งมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดของประเทศ
ที่ผ่านมา แม้คะแนนนิยมของนายอาเบะ จะขึ้นๆ ลง แต่ส่วนใหญ่แล้ว ยังไม่มีคนที่จะขึ้นมาเทียบชั้นกับเขา ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ เพราะอิทธิพลที่มีอยู่อย่างมากในพรรคแอลดีพี ที่มีการปรับเปลี่ยนกฎข้อบังคับ เพื่อเปิดทางให้เขา สามารถดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อเป็นสมัยที่ 3 ได้
นายอาเบะยังเป็นผู้นำในการรณรงค์ทั่วประเทศ เพื่อให้กรุงโตเกียว ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ฤดูร้อน และพาราลิมปิกส์ ซึ่งตอนนี้ถูกเลื่อนไปเป็นปีหน้าเพราะวิกฤติโควิด-19
ในด้านการทูต นายอาเบะมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับประธานาธิบดีสหรัฐ ทั้งอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำคนปัจจุบันของสหรัฐ เขายังมีเป้าหมาย ที่จะบรรลุข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซียด้วย
ภาพ : Twitter @AbeShinzo
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ชินโซ อาเบะ’ จ่อลาออกนายกฯ ญี่ปุ่น เหตุปัญหาด้านสุขภาพ
- ‘แบงก์ชาติสหรัฐ’ เปลี่ยนนโยบายครั้งใหญ่ ปล่อย ‘เงินเฟ้อ’ ขึ้นแรง ปูทางตรึง ‘ดอกเบี้ยต่ำ’
- ‘เทสลา’ เปิดให้จองรถยนต์ ‘โมเดล Y’ ล่วงหน้า ราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท
