World News

‘เลบานอน’ จับเจ้าหน้าที่ท่าเรือเอี่ยวปมเก็บ ‘แอมโมเนียไนเตรต’ จนระเบิดใหญ่

“เลบานอน” จับกุมเจ้าหน้าที่ท่าเรือเอี่ยวเก็บ “แอมโมเนียไนเตรต” 2.7 พันตันจนระเบิดใหญ่ ลั่นจะเปิดผลสอบสวนภายใน 5 วัน ล่าสุดยอดเสียชีวิตพุ่งเป็น 135 ราย บาดเจ็บ 5 พันราย

เมื่อวานนี้ (5 ส.ค. 63) คณะรัฐมนตรีเลบานอนประกาศภาวะฉุกเฉินในกรุงเบรุต เมืองหลวงของประเทศ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดใหญ่เพิ่มขึ้นเป็น 135 รายแล้ว

เหตุระเบิดใหญ่ 2 ครั้งซ้อนเกิดขึ้นที่ท่าเรือเบรุต เมื่อราว 18.10 น. ของวันที่ 4 สิงหาคม 2563 ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนเขย่าอาคารทั่วเมืองและสร้างความเสียหายรุนแรง ซึ่งฮาหมัด ฮัสซัน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของเลบานอน ประกาศว่าเหตุระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 135 ราย และผู้บาดเจ็บ 5,000 ราย

รายงานระบุว่า กองทัพของเลบานอนจะเป็นผู้กำกับดูแลและรักษาความปลอดภัยในเมืองเบรุตขณะประกาศภาวะฉุกเฉิน ส่วนข้อมูลเบื้องต้นเปิดเผยว่าแอมโมเนียไนเตรต ซึ่งถูกเก็บอยู่ในโกดังหมายเลข 12 ของท่าเรือเบรุตตั้งแต่ปี 2557 อาจเป็นสาเหตุของการระเบิดใหญ่ทั้ง 2 ครั้ง

เลบานอน ระเบิด

จับกุมเจ้าหน้าที่ท่าเรือ

คณะรัฐมนตรี เลบานอน ตัดสินใจจับกุมเจ้าหน้าที่ท่าเรือ ซึ่งรู้เห็นและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเก็บแอมโมเนียไนเตรตไว้ที่ท่าเรือเบรุตปริมาณสูงถึง 2,700 ตัน พร้อมกระตุ้นกระทรวงโยธาธิการโยกย้ายการทำกิจกรรมนำเข้า-ส่งออกไปยังท่าเรือตริโปลี เนื่องจากท่าเรือเบรุตได้รับความเสียหายหนัก

ส่วนคณะกรรมาธิการสูงด้านการบรรเทาทุกข์จะจัดการเปิดโรงเรียนและโรงแรมไว้รองรับประชาชนที่สูญเสียที่อยู่อาศัยจากเหตุระเบิด

ปัจจุบันเลบานอนกำลังสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสภาป้องกันสูงสุดให้คำมั่นจะเปิดเผยผลการสืบสวนภายใน 5 วัน

trump
โดนัลด์ ทรัมป์

“ทรัมป์” มั่นใจระเบิด “เลบานอน” เป็นการโจมตี

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงความเชื่อมั่นว่า เหตุระเบิดครั้งใหญ่ในกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน อาจเป็น “การโจมตี” โดยไม่สนใจการประเมินเหตุการณ์ของรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมแต่อย่างใด

“ผมว่าคงมีใครเอาพวกอุปกรณ์ระเบิดอะไรพรรค์นั้นไปวางทิ้งไว้มั้ง คงเป็นอย่างนั้น ไม่งั้นอาจเป็นการโจมตี ผมว่าตอนนี้ยังไม่มีใครบอกได้” ทรัมป์กล่าว “บางคนคิดว่าเป็นการโจมตี บางคนก็ว่าไม่ใช่”

ก่อนหน้านี้เมื่อวันอังคาร (4 ส.ค. 63) ทรัมป์กล่าวที่ ทำเนียบขาว ว่า เขาได้ “พบปะกับนายพลคนสำคัญของสหรัฐ หลายนาย ซึ่งดูจะเชื่อว่าการระเบิดในเลบานอนไม่ใช่แค่เหตุโรงงานระเบิดธรรมดา”

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐบางส่วน อาทิ มาร์ก เอสเปอร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวอ้างของทรัมป์ โดยเอสเปอร์แถลงว่า “คนส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุตามการรายงาน” ขณะที่เพนตากอนยังคงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเหตุระเบิดต่อไป

เลบานอน ระเบิด

เมื่อวันอังคาร (4 ส.ค. 63) เกิดเหตุระเบิดใหญ่ 2 ครั้ง ในกรุงเบรุตของ เลบานอน โดยข้อมูลเบื้องต้นชี้ว่าแอมโมเนียมไนเตรทที่เก็บไว้ในโกดังหมายเลข 12 ที่ท่าเรือเบรุตตั้งแต่ปี 2557 อาจเป็นสาเหตุการระเบิด

นายฮัสซัน ดิอาบ นายกรัฐมนตรีเลบานอน เปิดเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ ที่สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วทั้งเมืองนั้น เกิดจากการที่สารแอมโมเนียม ไนเตรท จำนวน 2,750 ตัน ซึ่งจัดเก็บไว้บริเวณท่าเรือของกรุงเบรุต เกิดระเบิดขึ้นมา โดยสารเคมีนี้ ถูกจัดเก็บอย่างไม่ปลอดภัย ในคลังสินค้ามานานถึง 6 ปี พร้อมให้คำมั่นที่จะลงโทษต่อผู้ที่ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้

ผมไม่มีทางที่จะสบายใจได้ จนกว่าเราจะพบตัวผู้รับผิดชอบ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และกำหนดบทลงโทษขั้นสูงสุด เนื่องจากเป็นเรื่องยอมรับไม่ได้ที่แอมโมเนียม ไนเตรท น้ำหนัก 2,750 ตัน อยู่ในคลังสินค้าเป็นเวลา 6 ปี โดยไม่มีมาตรการป้องกัน ซึ่งเป็นภัยคุกคามความปลอดภัยประชาชน

CnyztpE007013 20200805 PEPFN0A001

ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดยักษ์ครั้งนี้ ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการพบร่างผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเหตุการณ์นี้ ยังทำให้บ้านเรือนหลายร้อยหลังพังราบ และยังทำลายไซโลเก็บธัญพืชขนาดยักษ์อีกหลายแห่ง ซึ่งถือเป็นความเสียหายอย่างร้ายแรง ในช่วงเวลาที่ เลบานอน กำลังอยู่ในภาวะขาดแคลนขนมปัง และต้องพึ่งพาการนำเข้าธัญพืชจากต่างประเทศ

นายมาร์วัน อับบูด ผู้ว่าการกรุงเบรุต ประเมินว่า มูลค่าความเสียหาย จากเหตุระเบิดครั้งนี้อาจอยู่ประมาณ 3,000 – 5,000 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากพื้นที่เกือบครึ่งเมือง ได้รับความเสียหายจากแรงระบเด

เขาบอกด้วยว่า หายนะภัยครั้งนี้ ทำให้มีผู้คนไร้ที่อยู่อาศัย ราว 250,000 – 300,000 คน

ที่มาสำนักข่าวซินหัว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo