องค์การอาหาร และการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฉุกเฉินกำหนด 3 วัน เพื่อหาทางป้องกันโรคอหิวาต์สุกรแอฟริกัน (เอเอสเอฟ) ระบาดไปทั่วเอเชีย หลังจากที่จีนต้องฆ่าหมูติดเชื้อไวรัสโรคนี้ครั้งใหญ่ ทำให้เกิดความกังวลถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่
การประชุมที่เริ่มขึ้นในวันนี้ (5 ก.ย.) ที่กรุงเทพมหานคร เป็นวันแรกนั้น มีผู้เชี่ยวชาญด้านโรคในสัตว์ รวมถึง เจ้าหน้าที่ด้านนโยบายการเกษตรจาก 9 ประเทศ ที่เป็นชาติเพื่อนบ้านจีนมาเป็นประชุมร่วมกัน
สัตวแพทย์หญิง ดร. วันทนีย์ กัลล์ประวิทธ์ ผู้จัดการภูมิภาค ศูนย์ภาวะฉุกเฉินโรคระบาดในสัตว์ข้ามแดน (อีซีทีเอดี) ประจำภาคพื้นเอเชีย ของเอฟเอโอ ระบุว่า เป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ที่ภูมิภาคนี้จะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความเป็นไปได้ที่แท้จริงทุกอย่าง ที่โรคเอเอสเอฟอาจระบาดข้ามชายแดนจากจีน เข้าไปยังประเทศอื่นๆ
“นี่คือสาเหตุที่ทำให้ต้องมีการจัดประชุมฉุกเฉินขึ้นมา เพื่อประเมินถึงสถานการณ์ในขณะนี้ และเพื่อดูว่า เราจะร่วมมือกันทำงานในเรื่องนี้ ให้เป็นการรับมือในระดับภูมิภาคได้อย่างไรบ้าง”
ทั้งนี้ จีน ประเภทผู้ผลิต และบริโภคเนื้อหมูรายใหญ่สุดของโลก รายงานถึงการพบโรคเอเอสเอฟเป็นครั้งแรกในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ที่มณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ และโรคนี้ได้ระบาดลงมายังพื้นที่ทางตอนใต้ ส่งผลให้จนถึงขณะนี้ ทางการจีนมีคำสั่งให้จำกัดหมูไปแล้ว 38,000 ตัว
เอเอสเอฟเป็นโรคที่ไม่ติดต่อมาสู่คน โดยหมูที่ป่วยด้วยโรคนี้ จะมีการเป็นไข้เลือดออก และมักจะตายลงในที่สุด ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มียารักษา หรือวัคซีนป้องกันโรคนี้ โดยมาตรการเพียงอย่างเดียวที่ใช้อยู่คือการกำจัดหมูที่ติดเชื้อ หรือเสี่ยงติดเชื้อทั้งหมด
ผู้ที่เข้าร่วมการประชุมรวมถึง เจ้าหน้าที่จากกัมพูชา จีน ญี่ปุ่น ลาว มองโกเลีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ไทย และเวียดนาม
