“เจอโรม พาวเวล” ชี้ เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวช้า หลังยอดติดเชื้อโควิดพุ่งสูงอีกครั้ง แต่ยังเร็วเกินไปที่จะระบุได้ว่า จะชะลอตัวลงไปมากน้อยเท่าใด และจะนานแค่ไหน ให้คำมั่น ใช้มาตรการ และเครื่องมือทุกอย่างที่เฟดมีอยู่ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงหลังเสร็จสิ้นการประชุม เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของเฟด เมื่อวานนี้ (29 ก.ค.)ว่า การแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 และจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นทั่วสหรัฐ กำลังส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ
“กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า นับตั้งแต่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มกลับมาสูงขึ้นอีกครั้งในช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สหรัฐกำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญ ในการต่อสู้กับวิกฤติด้านสาธารณสุข และการลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ”
เขาบอกด้วยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมาก และการที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้รวดเร็วเพียงใดนั้น จะขึ้นอยู่กับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด และความพยายามของรัฐบาลในการใช้มาตรการเยียวยาเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลกล่าวว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่า เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงมากเพียงใด และยาวนานเพียงใด เนื่องจากเฟดต้องประเมินภาพรวมจากข้อมูลเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและการจ้างงาน ซึ่งเป็นสองดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจที่เฟดกำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ยังให้คำมั่นว่า เฟดจะใช้มาตรการ และเครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่ทั้งหมด เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐ และว่า แม้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ จะเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้นบ้างในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็มีความท้าทายใหม่ๆ รออยู่ข้างหน้า สิ่งที่ควรเร่งดำเนินการในเวลานี้คือ ควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสให้เร็วที่สุด และใช้มาตรการที่จำเป็นในการรับมือกับผลกระทบ
ทั้งนี้ ที่ประชุมเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายเฟด มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% พร้อมยืนยันว่า จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% และใช้เครื่องมือทั้งหมดที่เฟดมีอยู่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐ จนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นมา จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และบรรลุเป้าหมายของเฟดในการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และรักษาเสถียรภาพของราคา
ขณะเดียวกันเฟดระบุว่าจะขยายเวลาสำหรับข้อตกลงสว็อปดอลลาร์เพื่อให้สภาพคล่องแก่ธนาคารกลางทั่วโลก รวมทั้งมาตรการซื้อคืนพันธบัตรจนถึงวันที่ 31 มีนาคมปีหน้า
นอกจากนี้ เฟดจะยังคงถือครองพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยเฟดจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 80,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน และซื้อตราสารหนี้ ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 40,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน เพื่อสร้างเสถียรภาพต่อตลาดการเงิน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เศรษฐกิจสหรัฐย่ำแย่หนัก ‘โกลด์แมน แซคส์’ ปรับคาดการณ์ทั้งปีหดตัว 4.6%
- ‘พาวเวล-มนูชิน’ ให้คำมั่น ร่วมมือ ‘พยุงเศรษฐกิจสหรัฐ’ พ้นวิกฤติ ‘โควิด-19’
- ‘เฟด’ เตือนประชาชนอย่า ‘เดิมพัน’ กับเศรษฐกิจสหรัฐ