World News

WHO ระดมผู้เชี่ยวชาญ เตรียมสืบหา ‘สัตว์’ ต้นตอแพร่โควิด-19 สู่มนุษย์

“WHO” ระดมติดต่อผู้เชี่ยวชาญปฏิบัติภารกิจระดับนานาชาติ สืบหา “สัตว์” ที่เป็นแหล่งแพร่เชื้อ โควิด-19 สู่มนุษย์

เมื่อวานนี้ (23 ก.ค. 63) ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสของ องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยว่า องค์การกำลังเริ่มติดต่อผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ สำหรับภารกิจระบุแหล่งโรคติดเชื้อจากสัตว์มาสู่คน (zoonotic source) ที่ก่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

WHO โควิด 19

ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารโครงการภาวะฉุกเฉินทางสุขภาพของ WHO ระบุว่า สัตว์ใดที่เป็นแหล่งของเชื้อไวรัส โควิด-19 นั้นเป็นอีกหนึ่งคำถามที่สำคัญมาก และผู้เชี่ยวชาญในชุมชนวิทยาศาสตร์จีนและต่างประเทศล้วน “กระตือรือร้นที่จะเดินหน้าทำการศึกษาที่เหมาะสม” โดยเขาเชื่อว่าการมีส่วนร่วมในระดับสูงของคณะผู้เชี่ยวชาญจะช่วย “ขับเคลื่อนภารกิจให้ประสบความสำเร็จ”

ไรอันกล่าวว่า องค์การส่งผู้เชี่ยวชาญ 2 คนไปจีนเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจระดับนานาชาติดังกล่าว โดยพวกเขาได้ปรึกษาทางไกลร่วมกับชาวจีน ณ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ จีน (CDC) เพื่อพิจารณาการสำรวจเบื้องต้นต่างๆ และการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับต้นกำเนิดของไวรัส

ทั้งนี้ ไรอันเสริมว่าองค์การได้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติหลายราย เพื่อพิจารณาว่าผู้ใดสะดวกและเหมาะสมที่สุดในการสนับสนุนภารกิจระดับนานาชาติภารกิจหนึ่ง ซึ่งจะมีขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ เพื่อค้นหาแหล่งโรคติดเชื้อจากสัตว์มาสู่คนที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19

“จีน-WHO” เห็นพ้องหาต้นพอ โควิด-19

เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา จ้าวลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน เปิดเผยว่าภายหลังการหารือระหว่างรัฐบาลจีนและ WHO รัฐบาลจีนเห็นพ้องให้องค์การฯ จัดส่งคณะผู้เชี่ยวชาญมายังกรุงปักกิ่ง เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคณะนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของจีนเกี่ยวกับความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์เพื่อตรวจหาต้นกำเนิดไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

จ้าวระบุว่าคณะผู้เชี่ยวชาญจาก WHO จะเดินทางมายังจีน เพื่อตระเตรียมแผนการทางวิทยาศาสตร์สำหรับบ่งชี้แหล่งกำเนิดในสัตว์ของโรคโควิด-19 โดยคณะผู้เชี่ยวชาญจากทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันพัฒนาขอบเขตและข้อกำหนดของภารกิจระหว่างประเทศที่นำโดยองค์การฯ

“การตรวจสอบแหล่งกำเนิดของไวรัสเป็นประเด็นทางวิทยาศาสตร์ ที่คณะนักวิทยาศาสตร์ควรศึกษาผ่านการวิจัยและความร่วมมือระหว่างประเทศทั่วโลก” จ้าวกล่าว พร้อมเสริมว่าองค์การฯ มีความคิดเห็นว่ากระบวนการที่กำลังดำเนินการอยู่นี้เกี่ยวข้องกับหลายพื้นที่และประเทศทั่วโลก และองค์การฯ จะจัดส่งคณะผู้เชี่ยวชาญไปยังประเทศและภูมิภาคอื่นๆ เพื่อปฏิบัติภารกิจลักษณะเดียวกันตามความจำเป็น

จ้าวกล่าวว่า องค์การฯ และจีนรักษาการติดต่อสื่อสารและความร่วมมืออย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ พร้อมทิ้งท้ายว่าโรคระบาดในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้น ณ ประเทศต่างๆ ของโลกได้พิสูจน์แล้วว่าการบ่งชี้ต้นกำเนิดของไวรัสเกิดใหม่มีความสลับซับซ้อน

ดังนั้นการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่วางแผนอย่างดีจะช่วยเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับแหล่งรังโรคที่เกิดจากสัตว์และเส้นทางแพร่เชื้อสู่มนุษย์ โดยความพยายามพัฒนากระบวนการดังกล่าวอย่างค่อยเป็นค่อยไปอาจนำไปสู่การยกระดับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และความร่วมมือระหว่างประเทศทั่วโลกในอนาคต

อู่ฮั่น เครื่องบิน โควิด

“ผอ.WHO” ปฏิเสธข้อกล่าวหามีดีลพิเศษให้นั่งตำแหน่ง

เมื่อวานนี้ (23 ก.ค. 63) ผู้นำ WHO ยังออกมาระบุว่า คำกล่าวล่าสุดของ ไมเคิล ปอมเปโอ หรือ ไมก์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างองค์การกับจีนนั้น “ไม่เป็นความจริง เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ และไม่มีมูล”

ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การกล่าวระหว่างการรายงานข่าวว่าเป้าหมายหนึ่งเดียวขององค์การคือการช่วยชีวิตผู้คน และองค์การ “จะไม่ไขว้เขวไปกับคำกล่าวเหล่านี้ และเราไม่อยากให้ประชาคมระหว่างประเทศทั่วโลกไขว้เขวเช่นกัน”

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวผู้ซึ่งได้เข้าร่วมการประชุมแบบปิดระหว่างปอมเปโอและสมาชิกสภานิติบัญญัติของสหราชอาณาจักรที่กรุงลอนดอนเมื่อวันอังคาร (21 ก.ค. 63) โดยปอมเปโอกล่าวอ้างว่ามี “ข่าวกรองอันที่น่าเชื่อถือ” ระบุว่ามีการทำข้อตกลงเพื่อให้ทีโดรสขึ้นเป็นผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การ ซึ่งสิ่งนี้ได้ส่งผลให้พลเมืองสหราชอาณาจักรเสียชีวิตจากโรคโควิด-19

ทีโดรสกล่าว ผู้อำนวยการ WHO ย้ำว่า การดึงโรค โควิด-19 ไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเป็นหนึ่งในภัยที่อันตรายที่สุด เพราะโรคโควิด-19 ไม่รู้จักพรมแดน อุดมการณ์ หรือพรรคการเมืองใด

“ผมพูดหลายครั้งแล้วว่าเราควรหยุดดึงโรคโควิด-19 ไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ผมร้องขออีกครั้งให้ทุกประเทศร่วมมือกัน การเมืองและการแบ่งพรรคแบ่งพวกทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้าย สิ่งที่สำคัญยิ่งคือวิทยาศาสตร์ ทางแก้ไข และความสามัคคี ผมขอย้ำอีกครั้งว่าคำกล่าวหาเหล่านั้นไม่เป็นความจริงและไม่มีมูลใดเลย”

WHO โควิด-19

ระหว่างการรายงานข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (23 ก.ค.) ไมก์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารของโครงการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขององค์การยืนหยัดสนับสนุนทีโดรสและกล่าวว่า “ผมรู้ภูมิใจที่ได้อยู่เคียงข้างดร. ทีโดรส … องค์การของเราและการนำของเขาเชื่อมโยงกันอย่างตัดไม่ขาด”

“เราต่างทำงานเพื่อช่วยชีวิตคน” ไรอันกล่าว “เรายึดมั่นในหน้าที่นั้น เราภาคภูมิใจในการเป็น WHO และเราจะไม่เปลี่ยนแปลง เราจะทำงานเพื่อผู้คนที่อ่อนแอและเปราะบางในทั่วโลก โดยไม่คำนึงว่าพวกเขาจะพูดถึงเราว่าอย่างไร”

ด้านมาเรีย ฟาน เคิร์กโฮฟ ชาวสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายเทคนิคของโครงการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขององค์การกล่าวระหว่างการรายงานข่าวว่า “ฉันเห็นด้วยตาของฉันเองในทุกๆ วันว่า ดร. ทีโดรสและไมก์ทำอะไรบ้าง และทีมของเราดำเนินการอะไรบ้างทั่วโลก เราต่างมุ่งมั่นช่วยชีวิตผู้คน เช่นเดียวกับที่ทีโดรสได้ทำ เราจะไม่ไขว้เขว เราจะยึดมั่นเช่นนั้น และมุ่งมั่นทำงานต่อไป”

สำหรับยอดผู้ป่วย โควิด-19 ทั่วโลก วันนี้ (24 ก.ค. 63) นับถึงเวลา 09.00 น. ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 15,651,910 คน รักษาตัวหายแล้วรวม 9,535,338 คน และมียอดสะสมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 636,470 ราย

ที่มาสำนักข่าวซินหัว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo