ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (20 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่เอสแอนด์พี 500 และแนสแด็ก ปรับตัวสูงขึ้น แรงหนุนจากข่าวดีในการพัฒนาวัคซีน และความหวังถึงมาตรการอัดฉีดที่เพิ่มมากขึ้น ช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจะเสียหายมากขึ้น เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศที่พุ่งสูงขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 26,615.42 จุด ลดลง 56.53 จุด หรือ 0.21% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,234.73 จุด บวก 10.00 จุด หรือ 0.31% และดัชนีแนสแด็กที่ 10,638.15 เพิ่มขึ้น 134.96 จุด หรือ 1.28%
ไฟเซอร์ ยักษ์ใหญ่ด้านเวชภัณฑ์สหรัฐ และ ไบโอเอ็นเทค บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพเยอรมนี รายงานข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่แสดงให้เห็นว่า วัคซีนที่ทั้ง 2 บริษัทร่วมกันพัฒนาอยู่นั้นมีความปลอดภัย และสามารถเหนี่ยวนำ ให้เกิดการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันได้
นอกจากนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับการทดลองวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา ในสหราชอาณาจักร ก็แสดงให้เห็นว่า กลุ่มอาสาสมัคร ที่เข้าร่วมการทดลองระดับคลินิคในขั้นแรกนี้ สร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาเช่นกัน
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์เตือนว่า แม้จะมีข่าวดีเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนในขณะนี้ แต่การทดลองระยะที่ 3 ของวัคซีน ที่หลายบริษัทกำลังพัฒนาอยู่นั้น เป็นส่วนที่ยากที่สุด และผ่านไปได้ยากมาก
นักลงทุนยังให้ความสนใจกับเรื่องมาตรการอัดฉีดทางการเงิน ที่นักวิเคราะห์ชี้ว่า ถ้ามีมูลค่ามากพอ ก็จะช่วยหนุนให้ตลาดทะยานขึ้นไปสูงกว่านี้
ทั้งนี้ สภาคองเกรสสหรัฐ มีกำหนดที่จะหารือถึงมาตรการอัดฉีดเศรษฐกิจก้อนใหม่ในสัปดาห์นี้ จากการที่มาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจจำนวนหนึ่ง กำลังจะหมดอายุลงในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ และจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในหลายรัฐ กำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บีบให้ทางการต้องระงับแผนการผ่อนคลายมาตรการควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดเอาไว้ก่อน