World News

อาลีบาบาตั้งบริษัทร่วมทุนรุกอุตฯชิ้นส่วนรถยนต์

อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง รุกเข้าสู่ตลาดชิ้นส่วนรถยนต์ และซัพพลายเชน ด้วยการจับมือกับบริษัทท้องถิ่น ตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ขึ้นมา ในความหวังที่จะกลายเป็น “ยูนิคอร์น” แห่งอุตสาหกรรมบริการหลังการขายรถยนต์ ธุรกิจเกิดใหม่ในแดนมังกร

alibaba

ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจีนรายนี้ ที่เจาะเข้าธุรกิจรถยนต์ตั้งแต่เมื่อเกือบ 4 ปีก่อน ประกาศจับมือกับเจ้อเจียง จิงกู่ ผู้จัดหาชิ้นส่วนรถยนต์ ให้กับค่ายรถยนต์ชั้นนำของโลก อย่างเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) โฟล์กสวาเก้น และฟอร์ด ตั้งบริษัทร่วมทุนบริการหลังการขายขึ้นมาใหม่

ภายใต้ข้อตกลงที่ทำไว้นั้น อาลีบาบา ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด จะอัดฉีดเงินจำนวนหนึ่งให้กับบริษัทตั้งใหม่รายนี้ ขณะที่จิงกู่ จะดำเนินการควบกิจการซัพพลายเชนในเครือ 2 ราย คือ คาร์โซน และคิวซีซีอาร์ เข้ามาไว้ในบริษัทร่วมทุน

แถลงการณ์ของ 2 บริษัท ระบุว่า ผู้จัดจำหน่ายชิ้นส่วนรถยนต์มากกว่า 80,000 ราย จะได้รับประโยชน์จากการอัพเกรดดิจิทัลครั้งใหญ่ ที่จะมีติดบาร์โค้ดไว้กับชิ้นส่วนรถยนต์หลักๆ จำนวนหนึ่ง ซึ่งผู้ใช้งานจะสามารถใช้มือถือสแกน เพื่อติดตามแหล่งที่มา และรับประกันว่าเป็นของแท้ได้

การที่มีโกดังสินค้าเกือบ 600 แห่ง กระจายอยู่ทั่วประเทศ ทำให้บริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ สามารถจัดส่งชิ้นส่วนรถยนต์ให้กับอู่ซ่อมรถราว 70,000 แห่ง ภายใน 30 นาที หากอยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตรจากโกดังสินค้า

ข้อมูลจากอิปซอส บริษัทวิจัยตลาด คาดการณ์ว่า อายุเฉลี่ยของรถยนต์ในจีนจะถึง 5 ปี ภายในปีนี้ ซึ่งมีแนวโน้มว่า จะทำให้ตลาดบริการหลังการขาย ที่รวมถึงการซ่อมบำรุงจะมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมาก

อิปซอส ประเมินด้วยว่า ตลาดบริการหลังการขายรถยนต์ในจีน มีอัตราการเติบโตราว 12.7% ตั้งแต่ปี 2558 และจะพุ่งถึง 214,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2563

มาร์คัส เชียเรอร์ ผู้อำนวยการจากอิปซอส ระบุว่า อีคอมเมิร์ซกำลังจะกลายมาเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” สำหรับรูปแบบแฟรนไชส์แบบดั้งเดิม โดยอีคอมเมิร์ซแบบธุรกิจสู่ลูกค้า (บี2ซี)แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะการซ่อมบำรุงตามความต้องการ และประดับยนต์ต่างๆ

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight