ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (24 เม.ย.) ปรับตัวลดลง จากการที่นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังมีรายงานว่า ยา Remdesivir ของบริษัท Gilead Sciences ไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 19,273.27 จุด ร่วงลง 156.17 จุด หรือ 0.80% ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงที่ 23,837.88 จุด ปรับลงมา 139.44 จุด หรือ 0.58% ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ที่ 2,818.22 จุด ลดลง 20.28 จุด หรือ 0.71% และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ที่ 2,517.91 จุด ลดลง 24.46 จุด หรือ 0.96%
ทางด้านดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (23 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นที่ 23,515.26 จุด เพิ่มขึ้น 39.44 จุด หรือ 0.17% ดัชนี เอสแอนด์พี P500 ปิดที่ 2,797.80 จุด ลดลง 1.51 จุด หรือ 0.05% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 8,494.75 จุด ลดลง 0.63 จุด หรือ 0.01%
ตลาดหุ้นสหรัฐ ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และขานรับเรื่องที่ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐผ่านมาตรการมูลค่าเกือบ 500,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อเยียวยาธุรกิจขนาดเล็ก และโรงพยาบาล ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
อย่างไรก็ดี ขาขึ้นของตลาดถูกสกัด จากรายงานข่าวที่ว่า ยา Remdesivir ของบริษัท Gilead Sciences ไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคโควิด-19 อันเป็นปัจจัยเดียวกันที่กดดันให้เกิดการเทขายในตลาดหุ้นเอเชีย ช่วงเช้าวันนี้
องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ผลการใช้ยา Remdesivir ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสของบริษัท Gilead Sciences ในการทดสอบทางคลินิกที่จีน พบว่ายาดังกล่าวไม่สามารถเร่งอัตราการฟื้นตัวของผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวมทั้งไม่สามารถป้องกันผู้ป่วยจากการเสียชีวิต โดย WHO รายงานผลดังกล่าวบนเว็บไซต์ ก่อนที่จะลบออกในเวลาต่อมา
