ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ กลับมาร่วงลงอีกครั้ง ในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (1 เม.ย.) จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงอย่างหนัก จนทำให้ตลาดหุ้นโลกดิ่งลงรายไตรมาสหนักสุดในรอบกว่าทศวรรษ และราคาน้ำมันดิบ ซื้อขายใกล้ระดับต่ำสุดนับแต่ปี 2545 เป็นต้นมา
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 18,719.61 จุด ลดลง 197.40 จุด หรือ 1.04% ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกง ที่ 23,501.19 จุด ร่วงลง 102.29 จุด หรือ 0.43% ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีนที่ 2,760.09 จุด ขยับขึ้นมา 9.79 จุด หรือ 0.36% และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ ที่ 2,460.79 จุด ลบ 20.44 จุด หรือ 0.82%
ทางด้านดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (31 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ที่ 21,917.16 จุด ร่วงลง 410.32 จุด หรือ 1.84% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 2,584.59 จุด ลดลง 42.06 จุด หรือ 1.60% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 7,700.10 จุด ลดลง 74.05 จุด หรือ 0.95%
ยอดสะสมผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก พุ่งเกิน 800,000 คนแล้ว ซึ่งแม้อัตราการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลก จะเพิ่มขึ้นต่ำกว่า 10% มา 2 วันติดต่อกัน แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขก็เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น โดยที่เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาเตือนว่า แม้แต่ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค ที่ดูเหมือนสถานการณ์การระบาดจะเริ่มนิ่ง แต่ก็ยังอีกนานกว่าที่วิกฤตินี้จะยุติลง
ทางด้านราคาน้ำมันดิบ ซื้อขายในตลาดเอเชียเช้าวันนี้ ยังผันผวนอยู่ หลังปิดการซื้อขายในไตรมาสแรกของปีด้วยราคาที่ร่วงลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในรายไตรมาส ประกอบกับความกังวลถึงการจัดหาที่ล้นเกิน ในช่วงเวลาที่ความต้องการลดลงทั่วโลก
ข้อมูลจากสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน แสดงให้เห็นว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐมีปริมาณน้ำมันดิบสำรองเพิ่มขึ้น 10.5 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่ระดับ 4 ล้านบาร์เรล ที่คาดการณ์กันไว้อย่างมาก
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เคลื่อนไหวล่าสุดลดลง 21 เซนต์ มาอยู่ที่ 26.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียทขยับขึ้น 27 เซนต์ ที่ 20.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
