World News

ฟื้นแล้ว! ดาวโจนส์ บวกกว่า 500 จุด หลังเจอ ‘แบล็ค มันเดย์’ หนักสุดรอบ 30 ปี ทรุดเฉียด 3,000 จุด

ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (17 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ฟื้นตัวจากการทรุดหนักสุดในรอบ 30 ปี เมื่อวานนี้ (16 มี.ค.) หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศตั้งกองทุนพิเศษมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อรักษาสภาพคล่องในเศรษฐกิจสหรัฐ

stocks

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดอยู่ที่ 20,414.29 จุด ขยับขึ้นมา 526.35 จุด หรือ 2.61% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 2,491.29 จุด บวก 105.16 จุด หรือ 4.41% และดัชนีแนสแด็ก ที่ 7,210.06 จุด บวก 305.47 จุด หรือ 4.42%

บรรยากาศการซื้อขายในตลาด ยังเต็มไปด้วยความผันผวนอย่างมาก ดัชนีเปลี่ยนแปลงไปมาอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความลังเลในการเข้าลงทุนของนักลงทุน ที่ยังกังวลถึงภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ และจับตามองสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด

ความผันผวนของดัชนีหุ้นในวันนี้ ยังเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวานนี้ เป็นวัน “แบล็ค มันเดย์” ที่เลวร้ายสุดของวอลล์สตรีทในรอบ 30 ปี โดยที่ดาวโจนส์ดิ่งลงไปเกือบ 3,000 จุด จากความกังลในเรื่องผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่จะมีต่อเศรษฐกิจ แม้เฟด ได้เข้าแทรกแซงตลาด ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน และอัดฉีดเงินผ่านการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ก็ตาม

วันนี้ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ยังยืนยันด้วยว่า จะไม่ปิดตลาด แม้รัฐบาลสหรัฐอาจสั่งปิดโรงเรียน บาร์ ร้านอาหาร และงดเว้นการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การแสดงคอนเสิร์ต และการแข่งขันกีฬา เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

“เป็นสิ่งสำคัญที่ตลาดจะต้องเปิดอยู่ต่อไป และให้ตลาดทำการซื้อขายอย่างเป็นระเบียบเหมือนที่เคยเป็นมา” นางสเตซีย์ คันนิ่งแฮม ประธานตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก กล่าว

ขณะที่นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวเช่นกันว่า รัฐบาลสหรัฐต้องการให้ตลาดเปิดทำการต่อไป เพราะจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน ขณะที่นักลงทุนต้องการเข้ามาเพื่อซื้อ และขายหุ้น

Avatar photo