ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (16 มี.ค.) ปรับลดลงเป็นส่วนใหญ่ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด ด้วยการประกาศลดดอกเบี้ยนโยบายลงมาจนเหลือ 0% ทำให้นักลงทุนวิตกมากขึ้น ถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ จากการระบาดของไวรัสโควิด-19
ดัชนีนิกเคอิ ของญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 17,484.72 06 จุด เพิ่มขึ้น 53.67 จุด หรือ 0.31% ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงที่ 23,538.37 จุด ร่วงลง 494.54 จุด หรือ 2.06% ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีนที่ 2,875.38 จุด ลดลง 12.05 จุด หรือ 0.42% และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ที่ 2,564.67 จุด ดิ่งลง 69.33 จุด หรือ 2.63%
เฟดสร้างความประหลาดใจต่อตลาดด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นลงมา 1.00% จากระดับ 1.00-1.25% สู่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมฉุกเฉินเมื่อวานนี้ (15 มี.ค.) ตามเวลาในสหรัฐ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ทั้งจะเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 700,000 ล้านดอลลาร์
พร้อมกันนี้ ยังประกาศความร่วมมือกับธนาคารกลางระดับโลก เช่น ธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางแคนาดา ธนาคารกลางญี่ปุ่น และธนาคารกลางสวิส ในการเพิ่มสภาพคล่องของดอลลาร์ทั่วโลก ผ่านทางข้อตกลงสว็อประหว่างธนาคารกลางดังกล่าว
แม้การเคลื่อนไหวของเฟดครั้งนี้ จะถือเป็นมาตรการครั้งใหญ่ที่สุดภายในวันเดียวที่เฟดเคยดำเนินการมา แต่ยิ่งสร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุนที่มองว่า การเคลื่อนไหวเช่นนี้ จะทำให้สถานการณ์เศรษฐกิจที่แท้จริง ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 อยู่แล้ว ย่ำแย่หนักไปมากขึ้น และทำให้เกิดคำถามตามมาว่า เฟดจะมีเครื่องมือสำหรับการอัดฉีดเศรษฐกิจเหลืออยู่อีก หากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคุมไม่ได้
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาดทั่วโลกกังวลอย่างหนัก กับการส่งสัญญาณมากขึ้นถึงแรงกดดันที่มีอยู่ในบางตลาด รวมถึง สภาพคล่องที่ลดลงอย่างมาก และการดิ่งลงของราคา จากการเทขายอย่างรุนแรง
ความกังวลที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น ยังกดดันให้ราคาน้ำมัน ในตลาดเอเชียเช้านี้ เจอกับแรงเทขาย จนราคาร่วงลงไปเช่นกัน โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เคลื่อนไหวล่าสุดลดลง 1.83 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 32.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ปรับลงมา 1.53 ดอลลาร์ ที่ 30.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
