ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (27 ก.พ.) ปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลถึงการระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้นักลงทุนพากันหนีไปหาสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยอย่างทองคำ และพันธบัตร
ดัชนีนิกเคอิ ของญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดมาอยู่ที่ 22,023.50 จุด ร่วงลง 402.69 จุด หรือ 1.80% ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงลดลง 235.53 จุด หรือ 0.88% ที่ 26,460.96 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีนที่ 2,987.48 จุด ลดลง 0.45 จุด หรือ 0.02% และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ ที่ 3,093.29 จุด ขยับลงมา 24.23 จุด หรือ 0.78%
ทางด้านดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) ที่ 26,957.59 จุด ลดลง 123.77 จุด หรือ 0.46% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,116.39 จุด ลดลง 11.82 จุด หรือ 0.38% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 8,980.77 จุด เพิ่มขึ้น 15.16 จุด หรือ 0.17%
นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งขณะนี้ลุกลามออกไปทั่วโลก พบการติดเชื้อในยุโรป และสหรัฐเพิ่มมากขึ้น
นักวิเคราะห์ชี้ว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 กดดันให้เงินทุนไหลออกจากสินทรัพย์ในเอเชีย จากการที่นักลงทุนพยายามที่จะตีตัวออกห่างทั้งจากการระบาดของโรค และผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากเรื่องนี้
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในเอเชียช่วงเช้าวันนี้ ปรับลดลง โดยที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ของสหรัฐ เคลื่อนไหวล่าสุดลดลงมาอยู่ที่ 48.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ซึ่งรวมถึงสหรัฐ โดยล่าสุดสำนักงานสาธารณสุขของเขตแนสซอ ในรัฐนิวยอร์ก สหรัฐ ประกาศจับตาพลเมือง 83 คนที่เดินทางกลับจากประเทศจีน เนื่องจากกังวลว่าพลเมืองเหล่านี้อาจจะสัมผัสกับเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้ว่านายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่พบการติดเชื้อภายในรัฐก็ตาม
ส่วนราคาทองคำ ในเอเชีย ขยับขึ้นเล็กน้อย 0.3% ที่ 1,644.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) โดยนักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้ ทั้งเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ยังส่งผลให้ราคาทองคำมีความน่าดึงดูดน้อยลงด้วย
