World News

ผู้ประท้วงยูเครนโจมตีรถบัส พาคนจากอู่ฮั่นไปกักโรค

ผู้ประท้วงหลายร้อยคนในเมืองโนวิ ซันซารี ของยูเครน รุมโจมตีรถบัส ที่กำลังพาชาวยูเครน และชาวต่างชาติจำนวนหนึ่ง ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น ของจีน ไปกักโรคในโรงพยาบาล

ukraa

สำนักงานความมั่นยูเครน (เอสเอสยู) ระบุว่า เหตุการณ์โจมตีดังกล่าวเกิดขึ้น หลังมีการส่งอีเมลปลอม อ้างว่า มาจากกระทรวงสาธารณสุขยูเครน ระบุว่า ผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับมาบางคนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเอสเอสยู กำลังสืบหาที่มาของอีเมลนี้อยู่

รายงานข่าวระบุว่า เหตุโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้น หลังช่วงเช้ามืดวานนี้ (20 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น เที่ยวบินของชาวยูเครน 45 คน และชาวต่างชาติ 27 คน จากเมืองอู่ฮั่น ศูนย์กลางการระบาดของเชื้อไวรัส ได้เดินทางมาถึงเมืองคาร์คีฟ ทางตะวันออกของยูเครน

จากนั้น ทางการได้พาทั้งหมดเดินทางด้วยรถบัส 6 คัน เพื่อไปกักโรคที่โรงพยาบาลในเมืองโนวิ ซันซารี แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ประท้วง ที่จุดไฟเผาสิ่งของสกัดเส้นทาง และขว้างปาก้อนหินเข้าใส่รถบัส ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาเปิดถนน สลายการชุมนุม จนรถบัสสามารถเดินทางต่อไปถึงโรงพยาบาลได้

กระทรวงสาธารณสุขแถลงว่า ผู้ที่เดินทางกลับไม่มีอาการป่วยแต่อย่างใด ทั้งเจ้าหน้าที่การทูตยูเครน บอกด้วยว่า มีชาวยูเครน 3 คน และชาวคาซัคสถาน 1 คน ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับมากับเที่ยวบินนี้ เพราะมีรายงานว่า พวกเขาเป็นไข้

ทางด้านนายกรัฐมนตรีโอเลกไซ ฮอนชารุก นางโซเรียนา สกาเลตสก้า รัฐมนตรีสาธารณสุข และนายอาร์เซน อาวาคอฟ รัฐมนตรีมหาดไทย ต่างพากันเดินทางไปยังเมืองโนวิ ซันซารี เพื่อพยายามทำความเข้าใจ และบรรเทาความตึงเครียดที่เกิดขึ้น

ทางด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครน ได้ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้ผู้ประท้วงเห็นใจต่อผู้ที่เดินทางกลับมาเหล่านี้ และไม่เข้าร่วมในการประท้วง

“ผู้ที่กลับมาส่วนใหญ่อายุยังไม่ถึง 30 ปี พวกเขาก็เหมือนกับลูกหลานของพวกเรา” ประธานาธิบดีเซเลนสกี้ พร้อมเตือนว่า อันตรายที่มากกว่าเรื่องนี้ คือการที่ผู้คนลืมไปว่า ทุกคนก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน และทุกคน รวมถึง คนที่ตกค้างอยู่ในอู่ฮั่น ช่วงเกิดโรคระบาด ก็เป็นชาวยูเครนเช่นเดียวกัน

Avatar photo