Goldman Sachs (โกลด์แมน แซคส์) กลุ่มธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดรายงานวิเคราะห์เศรษฐกิจไทยฉบับล่าสุด ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ลงมาเหลือเพียงแค่ 2.1% จากเดิมที่คาดไว้ 2.3% หลังสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกาศตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในไตรมาส 4 ที่ขยายตัวเพียง 1.6% และตลอดทั้งปี 2562 โตเพียง 2.4% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ทั้งในประเทศ และต่างประเทศคาดการณ์ไว้
รายงานระบุว่า เศรษฐกิจไทยอาจได้รับผลกระทบจากปริมาณนักท่องเที่ยวที่ลดลงเพราะไวรัสโควิด-19 มากกว่าที่คาดการณ์กันไว้ โดยในตอนแรกคาดว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศไทยในปีนี้จะลดลง 16% ในไตรมาส 1 คิดเป็น 4% ของทั้งปี แต่หลังจากพูดคุยกับตัวแทนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยแล้ว Goldman Sachs ประเมินว่า นักท่องเที่ยวที่หายไปของไทยในปีนี้อาจสูงถึง 5 ล้านคน คิดเป็นประมาณ 13% ซึ่งทางธนาคารมองว่า จะส่งผลกระทบกับ GDP ในปีนี้ถึง 0.5%
ภาคการท่องเที่ยวของไทย คิดเป็นสัดส่วนราว 12% ของ GDP ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนั้น มีสัดส่วนมากถึง 28% ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมดของไทย
ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐรายนี้ ชี้ว่า ผลกระทบจากภาคการท่องเที่ยว จะส่งผลต่อเนื่องต่อภาคเศรษฐกิจไทยส่วนอื่นๆ เช่น การขนส่ง โรงแรม ธุรกิจค้าปลีก ร้านอาหาร ซึ่งใช้แรงงานคิดเป็น 40% ของแรงงานทั้งหมด
ขณะที่เรื่องภัยแล้ง ยังเป็นปัจจัยเสี่ยง ที่อาจทำให้ GDP ในไตรมาสแรกของปี 2563 ย่ำแย่หนักลงไปอีก
ภาคการเกษตรของไทยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 8% ของ GDP แต่ปัญหาใหญ่ของไทยคือภาคแรงงาน ที่คิดเป็นสัดส่วน 40% ของจีดีพี กลับอยู่ในภาคการเกษตร ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก ถ้าหากฝนตกตามฤดูกาลในเดือนพฤษภาคมนี้ จะช่วยบรรเทาผลบกระทบที่จะเกิดกับภาคเกษตรลงไปได้
ส่วนเรื่องงบประมาณล่าช้าของรัฐนั้น Goldman Sachs คาดว่าในไตรมาส 2 นี้จะได้เห็นผลจากงบประมาณที่ออกมา
อย่างไรก็ดี Goldman Sachs ประเมินว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาอีก หลังก่อนหน้านี้ได้ลดดอกเบี้ยลงมาเหลือ 1% ซึ่งในกรณีที่จำเป็นนั้น Goldman Sachs คาดว่า ธปท. อาจลดลงมาเหลือแค่ 0.5%