World News

ฮ่องกง-สิงคโปร์เดินหน้าคุมราคาบ้าน

ศูนย์กลางความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์เอเชีย 2 แห่ง คือ สิงคโปร์ และฮ่องกง ต่างประกาศขึ้นภาษีอสังหาริมทรัพย์ในความพยายามที่จะควบคุมราคาที่พักอาศัย แม้ว่าช่วงเวลาแห่งการเคลื่อนไหวนี้ อาจทำให้เกิดการปรับทิศทางที่สร้างความสั่นสะเทือนครั้งใหญ่

000 VH2XB

ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม สิงคโปร์ได้ขึ้นค่าอากรแสตมป์ ที่พลเมืองของตัวเอง จะต้องชำระสำหรับการซื้อที่พักหลังที่ 2 จากเดิม 7% มาอยู่ที่ 12% ขณะที่ค่าอากรแสตมป์สำหรับที่พักหลังที่ 3 และหลังต่อๆ มา เพิ่มขึ้น 5% มาอยู่ที่ 15%

สำหรับชาวต่างชาติ และภาคธุรกิจนั้น กำหนดให้ต้องจ่ายภาษีถึง 20% และ 25% ตามลำดับ จากเดิมที่จัดเก็บในอัตรา 15%

นอกจากนี้ รัฐบาลยังเพิ่มความเข้มงวดจำกัดการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โดยกำหนดให้อนุมัติสินเชื่อได้ไม่เกิน 75% ของราคาประเมิน สำหรับสินเชื่อที่มีกำหนดชำระคืนไม่เกิน 30 ปี และเป็นการซื้อบ้านหลังแรก

ทางด้านฮ่องกงก็ดำเนินมาตรการที่คล้ายคลึงกัน เพื่อบรรเทาภาวะร้อนแรงที่มากเกินไปของตลาดอสังหาริมทรัพย์

คณะเจ้าหน้าที่บริหารเกาะฮ่องกงได้นำเสนอมาตรการเป็นระลอกเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รวมถึง การเก็บภาษีที่ดินเปล่า เพื่อป้องกันไม่ให้นักพัฒนาที่ดินกว้านซื้อเก็บสะสมไว้

ทั้งนี้ แม้ราคาที่พักอาศัยจะปรับตัวสูงขึ้นทั่วทั้งเอเชีย แต่ราคาในสิงคโปร์ และฮ่องกง ต่างทะยานขึ้นแซงหน้าอัตราการขยายตัวทางศรษฐกิจ

ในช่วงปีที่ผ่านมา ราคาบ้านในสิงคโปร์พุ่งขึ้นไปถึง 9.1% ส่วนราคาบ้านในฮ่องกง ก็ปรับตัวขึ้น 26 เดือนติดต่อกัน

นายรวี เมนอน อธิบดีกรมการเงินสิงคโปร์ ระบุว่า ราคาบ้านที่ปรับสูงขึ้นเช่นนี้ จะส่งผลต่อความสามารถในการชำระสินเชื่อของผู้ซื้อโดยทั่วไป ซึ่งจะส่งผลเสียต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์

อย่างไรก็ตาม การขึ้นภาษีดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่า อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ในทั้ง 2 ดินแดน ที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางอสังหาริมทรัพย์ของเอเชีย ทั้งนักวิเคราะห์บางราย ยังตั้งข้อสงสัยว่า การเคลื่อนไหวนี้จะประสบความสำเร็จในการควบคุมราคาบ้านได้จริงหรือไม่

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight