World News

‘สตาร์บัคส์’ ประกาศปิด 2,000 สาขาทั่วจีน จับตา ‘ไวรัสอู่ฮั่น’ เขย่าผลประกอบการ

“ไวรัสอู่ฮั่น” สะเทือนบริษัทข้ามชาติ “สตาร์บัคส์” ประกาศปิด 2,000 สาขาทั่วจีน ร้านที่เหลือมียอดขายลดลง หวั่นกระทบผลประกอบการปี 63

staa

“สตาร์บัคส์” ร้านกาแฟแบรนด์หรูสัญชาติอเมริกา ประกาศปิดสาขาครึ่งหนึ่งในประเทศจีนเป็นการชั่วคราว ราว 2,000 สาขา จากทั้งหมด 4,300 สาขา เพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานติดเชื้อไวรัสโคโรนา และสนับสนุนรัฐบาลจีนในการต่อสู้กับโรคระบาด

ทั้งนี้ สตาร์บัคส์ได้เปิดร้านกาแฟแห่งแรกในประเทศจีน ณ กรุงปักกิ่ง เมื่อเดือนมกราคม 2542 จนปัจจุบันจีนได้กลายเป็นตลาดที่สำคัญของสตาร์บัคส์ สร้างยอดขายถึง 10% จากรายได้ทั่วโลก และยังเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของสตาร์บัคส์ นอกประเทศอเมริกา

สตาร์บัคส์จึงประเมินว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อผลประกอบการไตรมาสที่ 2 และผลประกอบการรวมของบริษัทในปี 2563 โดยขณะนี้ ร้านกาแฟในจีนบางสาขาที่ยังเปิดให้บริการอยู่ ก็มียอดขายลดลง ส่งผลให้บริษัทต้องทบทวนเป้าหมายและจะประกาศคาดการณ์ผลประกอบการปี 2563 ใหม่อีกครั้ง เมื่อประเมินผลกระทบจากไวรัสโคโรนาได้

โดยก่อนหน้านี้สตาร์บัคส์เคยคาดการณ์ว่า ปีนี้บริษัทจะมีรายได้เติบโต 6-8% และยังวางแผนจะปรับเพิ่มประมาณการณ์ เนื่องจากผลงานในไตรมาสที่ 1 ขยายตัวมากกว่าเป้า แต่ในที่สุดบริษัทก็ตัดสินใจไม่เปลี่ยนแปลงคาดการณ์ใดๆ เพราะเกิดสถานการณ์ไวรัสอู่ฮั่นระบาด

GettyImages 1195464209 1

รายงานข่าวจากบีบีซีระบุว่า สถานการณ์ของสตาร์บัคส์สะท้อนภาพความท้าทายของบริษัทข้ามชาติต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สำหรับบริษัทข้ามชาติอื่นๆ ก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ เช่น “แอปเปิ้ล” ที่กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงออกมาตรการจำกัดการเดินทางและลดเวลาเปิดร้านในประเทศจีน นอกจากนี้ก็ได้รับผลกระทบจากโรงงานซัพพลายเออร์ที่ปิดนานกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้แอปเปิ้ลยังไม่สามารถประเมินผลประกอบการในไตรมาสถัดไปได้

ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา “เฟซบุ๊ก” ก็เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งแรกในอเมริกาที่ขอให้พนักงานหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศจีน ด้าน “โตโยต้า” ก็ประกาศจะปิดโรงงานใน 2 พื้นที่ของประเทศจีนถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เนื่องจากรัฐบาลจีนประกาศปิดระบบชนส่งและการประเมินผลกระทบทางซัพพลายเชนของบริษัท

 

ขอบคุณภาพปกจากเว็บไซต์ starbucks.com

Avatar photo