ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกง เปิดซื้อขายวันนี้ (29 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันทำการวันแรกหลังจากปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีนร่วงอย่างหนัก แรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ขณะดัชนีนิกเคอิ ของญี่ปุ่น ฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ในแดนบวก ตามการเคลื่อนไหวของวอลล์สตรีทเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.)
ดัชนีฮั่งเส็ง เคลื่อนไหวล่าสุดอยู่ที่ 27,231.31 จุด ร่วงลง 718.33 จุด หรือ 2.57% ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น ที่ 23,314.03 จุด ขยับขึ้นมา 98.32 จุด หรือ 0.42% และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ ที่ 3,187.07 จุด เพิ่มขึ้น 5.82 จุด หรือ 0.18%
ทางด้านดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ที่ 28,722.85 จุด เพิ่มขึ้น 187.05 จุด หรือ 0.66% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,276.24 จุด เพิ่มขึ้น 32.61 จุด หรือ 1.01% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 9,269.68 จุด เพิ่มขึ้น 130.37 จุด หรือ 1.43%
ขาขึ้นของตลาดส่วนใหญ่ เป็นผลมาจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยหุ้นแอปเปิลที่พุ่งขึ้นกว่า 2.8% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาส
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่สูงกว่าคาดในเดือนมกราคม
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่า หุ้นเอเชียอาจเคลื่อนไหวช่วงแคบในวันนี้ เพราะนอกจากแรงกดดันจากความวิตกในเรื่องเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ยังเกาะติดตลาดอยู่ นักลงทุนยังรอดูท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะเริ่มการประชุมเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายในวันนี้ ตามเวลาในสหรัฐ
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ของสหรัฐ ซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในเอเชียช่วงเช้านี้ ขยับสูงขึ้น 0.47% ที่ 53.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังมีรายงานข่าวว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ต้องการที่จะขยายเวลาการลดเพดานผลิตน้ำมันออกไป จากเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือนมีนาคมนี้ ไปจนถึงอย่างน้อยเดือนมิถุนายน จากการคาดการณ์ว่าความต้องการน้ำมันของจีนจะซบเซาลงอย่างหนัก เพราะการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
