อินเดียจ่อผงาดขึ้นเป็นตลาดการบินขนาดใหญ่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก ภายใน 4 ปี หลังสายการบินจำนวนมากได้เพิ่ม หรือมีแผนที่จะเพิ่มเที่ยวบินไปยังประเทศนี้
เมื่อปีที่แล้ว สิงคโปร์ แอร์ไลนส์ ได้เพิ่มเที่ยวบินไปยังอินเดียอีกสัปดาห์ละ 9 เที่ยวบิน ทำให้สายการบินรายนี้มีเที่ยวบินไปยังอินเดียทั้งหมด 104 เที่ยวบิน ส่วนแอร์ฟรานซ์ – เคแอลเอ็ม ได้เพิ่มจำนวนที่นั่งสำหรับเที่ยวบินไปยังอินเดียอีก 25%
ตั้งแต่ช่วงฤดูหนาวนี้ สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลนส์ ก็เพิ่งเริ่มให้บริการเที่ยวบินตรงแบบไม่แวะพัก จากนครซานฟรานซิสโก สหรัฐ ไปยังกรุงนิวเดลีทุกวัน และสายการบินเดลต้า แอร์ ไลนส์ ก็เริ่มให้บริการเที่ยวบินตรงแบบไม่แวะพักจากสนามบินเคนเนดี ในนิวยอร์ก สหรัฐ ไปยังนครมุมไบ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สายการบินระหว่างประเทศมากกว่า 20 ราย จากทั้งหมด 80 รายที่มีเที่ยวบินไปยังอินเดีย ได้พากันเพิ่มบริการไปยังประเทศนี้มากขึ้น โดยในบางกรณีเป็นการจัดการผ่านทางการสายการบินอื่นๆ ที่เรียกกันว่า “รหัสการบินร่วม” โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 นั้น การเดินทางระหว่างสหรัฐกับอินเดียเพิ่มขึ้น 10.3% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561
ข้อมูลจากเซ็นเตอร์ ฟอร์ อะวิเอชัน บริษัทให้บริการข้อมูลด้านการตลาดสำหรับอุตสาหกรรมการบิน และการเดินทาง ชี้ว่า อัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนเที่ยวบินดังกล่าว จะทำให้อินเดียกลายมาเป็นตลาดการบินที่มีขนาดใหญ่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากจีน และสหรัฐ ภายในปี 2567
บรรดาผู้เชี่ยวชาญยังแสดงความเห็นว่า การเพิ่มขึ้นของจำนวนเที่ยวบิน เป็นผลมาจากเทรนด์ด้านต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การย้ายถิ่นฐาน และการเดินทาง ทั้งยังเป็นผลมาจากการที่มีบริษัทโซเชียลมีเดีย และเทคโนโลยีเข้ามาเปิดสาขาในอินเดียมากขึ้น หรือเพิ่มพนักงานในประเทศนี้มากขึ้น
นอกเหนือไปจากเรื่องที่ว่า มีชาวอินเดียจำนวนมากขึ้นที่ไปทำงาน หรืออยู่ในสหรัฐ แคนาดา อังกฤษ และที่อื่นๆ สถานการณ์ที่หมายความว่า จะทำให้เกิดการเดินทางกลับมาเยี่ยมครอบครัวญาติพี่น้องในบ้านเกิดมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น การท่องเที่ยวอินเดียยังขยายตัวมากขึ้น โดยคาดว่าการเดินทาง และท่องเที่ยว จะทำรายได้ให้กับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอินเดีย เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 492,200 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2571 จากระดับ 234,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อปี 2560 โดยเมื่อปปี 2561 สภาท่องเที่ยว และการเดินทางโลก จัดให้อินเดียอยู่ในอันดับ 3 จากทั้งหมด 185 ประเทศ ในแง่ของการทำรายได้ให้กับเศรษฐกิจของประเทศ เพิ่มขึ้นอย่างมากจากอันดับ 7 เมื่อปี 2559
นายกุนจัน บักลา กรรมการผู้จัดการอมฤต เวนเจอร์ส ในมาลิบู แคลิฟอร์เนีย สหรัฐ ระบุว่า แม้เศรษฐกิจอินเดียจะส่งสัญญาณถึงการชะลอตัว แต่การเดินทางทางธุรกิจไปยังอินเดียยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ซึ่งปัจจัยหนุนการเดินทางประเภทนี้ รวมถึง การค้าทวิภาคี
“เมื่อผมเริ่มก่อตั้งบริษัทในปี 2546 การค้าทวิภาคีระหว่างอินเดีย กับสหรัฐ มีมูลค่าอยู่ที่ 16,000 ล้านดอลลาร์ แต่ในปัจจุบันมูลค่าดังกล่าวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 142,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหมายความว่ามีผู้บริหารจำนวนมากขึ้นที่บินไปกลับะรหว่าง 2 ประเทศ เพื่อทำข้อตกลงต่างๆ แบบเห็นหน้าค่าตากัน” นายบักลากล่าว และว่า เขามองเห็นปัจจัยบ่งชี้ในเรื่องที่ว่า รัฐบาลอินเดียเป็นมิตรกับธุรกิจมากขึ้น
ขณะที่นายสเตฟาน ออร์มานด์ รองประธานบริหาร และผู้จัดการทั่วไป ของแอร์ฟรานซ์ -เคแอลเอ็ม สหรัฐ กล่าวว่า แม้จะมีความผันผวนอยู่บ้าง แต่การขยายตัวของเศรษฐกิจในอินเดียยังแซงหน้าจีนอยู่ และกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้สายการบินพุ่งความสนใจไปยังอินเดียในขณะนี้
“อินเดียแตกต่างจากเมื่อ 15 ปีก่อน ตอนที่จีนขยายตัวอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ อินเดียเติบโตเร็วกว่าจีน โครงสร้างพื้นฐานพัฒนามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นถนน สนามบิน หรือไฟฟ้า ต่างก็มีการเชื่อมต่อกกันดีขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้การเดินทาง และทำงานในประเทศนี้ง่ายมากขึ้น”
