World News

ไทยฉาว!! บริษัทญี่ปุ่นรับสารภาพจ่ายสินบนเจ้าหน้าที่

อัยการโตเกียวบรรลุข้อตกลงกับ “มิตซูบิชิ ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็มส์” ในการต่อรองให้รับสารภาพในคดีที่บริษัทถูกกล่าวหาว่า พนักงานของบริษัทรายหนึ่ง ให้สินบนกับข้าราชการไทย

mhpsa

การบรรลุข้อตกลงดังกล่าว ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกนับแต่ที่ญี่ปุ่นเริ่มนำข้อตกลงต่อรองนี้เข้ามาใช้ในระบบยุติธรรม เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว จะทำให้อัยการสามารถยกเลิกการฟ้องร้องบริษัท เพื่อแลกกับข้อมูลเกี่ยวกับพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการให้สินบน

แม้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องข้างต้นจะยังไม่ชัดเจน แต่สื่อท้องถิ่น รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า พนักงานของมิตซูบิชิ ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็มส์ บริษัทก่อสร้างโรงไฟฟ้า ที่มีฐานการดำเนินงานอยู่ในเมืองโยโกฮามา ได้ให้สินบนกับข้าราชการไทย เพื่อให้ได้สัมปทานโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า เมื่อปี 2556

ทางด้าน มิตซูบิชิ ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็มส์ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ กล่าวแต่เพียงว่า ได้ให้ความร่วมมืออย่างเหมาะสมกับเจ้าหน้าที่ เมื่อตรวจพบการกระทำที่ละเมิดกฎหมายดังกล่าว

หากถูกตัดสินว่ามีความผิด ภายใต้กฎหมายป้องกันการผูกขาด บริษัทอาจถูกปรับมากสุดถึง 300 ล้านเยน ส่วนบุคคลที่ละเมิดกฎหมาย อาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี หรือโดนปรับ 5 ล้านเยน

นับตั้งแต่ปี 2541 ที่ญี่ปุ่นออกกฎหมายห้ามให้ หรือรับสินบนจากข้าราชการต่างประเทศนั้น ญี่ปุ่นเพิ่งมีการดำเนินคดีบริษัท หรือบุคคลรายเดี่ยว ในข้อหาติดสินบนที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการต่างประเทศเพียง 4 คดีเท่านั้น

ทั้งนี้ มิตซูบิชิ ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็มส์ หรือ เอ็มเอชพีเอส เป็นบริษัทที่เกิดจากการควบรวมกิจการของหน่วยงานด้านโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนของมิตซูบิชิ เฮฟวีย์ อินดัสตรีส์ (เอ็มเอชไอ) และฮิตาชิ

บริษัทรายนี้ถือเป็นผู้นำระดับโลกในด้านระบบโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน และเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม ทำธุรกิจไล่ตั้งแต่การพัฒนา ออกแบบ การผลิต ก่อสร้าง และบริหารจัดการ ไปจนถึง การบริการหลังการขายสำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายน 2560  นายเคนจิ อันโดะ ประธานและประธานกรรมการบริหาร บริษัท มิตซูบิชิ ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็มส์ จำกัด หรือ MHPS ผู้ผลิตเครื่องจักรและชิ้นส่วนประกอบสำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน ให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ” ระบุว่า ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจของบริษัท

ดังนั้นการที่รัฐบาลไทยมีนโยบายยกระดับการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) นับเป็นหนึ่งในการต่อยอดโอกาสทางธุรกิจของบริษัทและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องในอนาคต โดยเฉพาะด้านสาธารณูปโภคด้านพลังงาน จะมีความต้องการเพิ่มขึ้นตามไปด้วย หากอนาคตอาจจะมีการตั้งฐานการผลิต การตั้งโรงงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และเกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่การสร้างโรงไฟฟ้าในรูปแบบใหม่ เพราะโรงไฟฟ้าแบบเดิม เครื่องจักรเก่าทำให้ต้นทุนการผลิตสูง  บริษัทจะทำหน้าที่พัฒนานวัตกรรมแทนที่เครื่องจักรเดิม

ล่าสุด บริษัทได้มีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ในการผลิตพลังงานสะอาด และได้นำเสนอแผนให้กับทางรัฐบาลไทยแล้ว โดยบริษัทได้มีการปรับปรุงเทคโนโลยีการเผาไหม้และแรงดันขั้นสูงที่อุณหภูมิ จาก 1,200 องศา ให้ถึง 1,700 องศา เพื่อตั้งเป้าลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้ถึง 100% รวมถึงโนว์ฮาวการอนุรักษ์พลังงานสะอาด ที่สามารถอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้เต็มที่ แต่รัฐบาลต้องลงทุนสูง ประชาชนอาจต้องจ่ายค่าไฟมากขึ้น 2-3 เท่าประชาชนจะเห็นด้วยหรือไม่ ขณะนี้รัฐบาลไทยอยู่ระหว่างการพิจารณาแผนดังกล่าวอยู่

เทคโนโลยีดังกล่าวนับเป็นเป้าหมายของบริษัทและรัฐบาลญี่ปุ่น เนื่องจากทั่วโลกเริ่มหันมาคำนึงถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อมในทุกภาคอุตสาหกรรม หากมองแผนพัฒนาด้านพลังงานของไทยในอนาคต 70% ของการสร้างโรงไฟฟ้ายังต้องใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน ขณะที่กำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) พลังงานลมยังถือว่าไม่มาก ดังนั้นจะทำอย่างไรให้พลังงานเหล่านี้เดินไปควบคู่กับสิ่งแวดล้อม ทางบริษัทจึงมองว่าจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีใหม่เข้ามาช่วย

ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจของ MHPS เห็นได้จากจำนวนชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ได้ผลิตและจัดส่งให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นกังหันก๊าซ 43 ยูนิต, กังหันไอน้ำ 34 ยูนิต, หม้อไอน้ำ 49 ยูนิต

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight