ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก และลบในเช้าวันนี้ (17 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า รวมถึงราคาน้ำมันดิบสหรัฐที่ดิ่งลงกว่า 4%
ดัชนีนิกเคอิ ของญี่ปุ่น เปิดซื้อขายที่ 22,605.73 จุด เพิ่มขึ้น 8.38 จุด หรือ 0.04% ดัชนีคอมโพสิต ตลาดเซี่ยงไฮ้ เปิดที่ 2,806.89 จุด ลดลง 7.15 จุด หรือ 0.25% ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกง ลดลง 88.16 จุด หรือ 0.31% มาอยู่ที่ 28,451.50 จุด
ตลาดชะลอการเข้าลงทุนเป็นบางส่วน ก่อนที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในวันนี้ตามเวลาในสหรัฐ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐ หลังจากแบงก์ ออฟ อเมริกา ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ธนาคารมีกำไรในไตรมาส 2 ที่ระดับ 63 เซนต์ต่อหุ้น สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้แรงหนุนจากการปรับลดค่าใช้จ่าย และมาตรการปรับลดอัตราภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ตัวเลขรายได้ของแบงก์ ออฟ อเมริกา ยังหนุนให้ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารของสหรัฐทะยานขึ้น ช่วยให้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดซื้อขายในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) ที่ 25,064.36 จุด เพิ่มขึ้น 44.95 จุด หรือ 0.18%
อย่างไรก็ตาม ดัชนีเอส แอนด์ พี 500 ปิดในแดนลบ ที่ 2,798.43 จุด ลดลง 2.88 จุด หรือ 0.10% เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมันดิบดิ่งลงอย่างหนัก เช่นเดียวกับดัชนีแนสแด็ก ที่ลดลง 20.26 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 7,805.72 จุด
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนสิงหาคม ดิ่งลง 4.15 % หรือ 2.95 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 68.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือ กำหนดส่งมอบเดือนกันยายน ร่วงลงไป 3.49 ดอลลาร์ หรือ 4.6% ปิดที่ 71.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากการที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศผ่อนผันให้ประเทศต่างๆ สามารถซื้อน้ำมันอิหร่านต่อไป แม้จะมีการคว่ำบาตรอยู่ ทำให้นักลงทุนมองว่า สหรัฐอาจยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านในวันข้างหน้า