รัฐบาลเมียนมาอนุมัติแผนการ พัฒนา 3 เมืองใหญ่ของประเทศ “เนย์ปิดอว์ ย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์” ให้เป็นเมืองอัจฉริยะ หรือสมาร์ท ซิตี้
นายหัน จ่อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงก่อสร้างเมียนมา เปิดเผยว่า รัฐบาลอยู่ระหว่างการจัดทำแผนการพัฒนาเมืองดังกล่าว โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคธุรกิจทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
“เราจะเริ่มต้นด้วยการสำรวจสิ่งที่จำเป็นสำหรับแต่ละเมืองก่อน เราจะดำเนินการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมเกาหลี-เมียนมา ในนครย่างกุ้ง สร้างเมืองรีสอร์ทแห่งใหม่ ในมัณฑะเลย์ และโครงการเมืองอัจฉริยะ ซึ่งทั้งหมดเป็นโครงการระดับชาติ ที่เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือกับธุรกิจท้องถิ่น และต่างประเทศ”
เขาบอกด้วยว่า การขยายตัวของเมือง และการที่คนในชนบทไหลทะลักเข้ามายัง 3 เมืองใหญ่ดังกล่าว รวมถึง การขาดโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้เมืองใหญ่เหล่านี้ตกอยู่ในความเสี่ยงต่อภัยพิบัติต่างๆ
“รัฐบาลจำเป็นต้องกำหนดนโยบายเมือง เพื่อใช้พื้นที่การเกษตร ลดผลกระทบจากภัยพิบัติ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน และเท่าเทียมกัน”
นายฮัน จ่อ ยังเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของการติดต่อสื่อสารแบบไร้อุปสรรคระหว่างชุมชนในเมืองกับชนบท
ผลสำรวจเมืองในเมียนมา แสดงให้เห็นว่า ประชากรในเขตเมืองจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 20 ล้านคนภายในปี 2573 หรือเพิ่มขึ้น 30% จากระดับ 14.4 ล้านคน เมื่อปี 2557
เช่นเดียวกับผลการศึกษาของบริษัทด้านการวิจัย แมคเคนซี ที่ประเมินว่า เมืองต่างๆ ในเมียนมาที่มีประชากรอยู่มากกว่า 2 ล้านคน อาจจะมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าภายในปี 2573
“เราจำเป็นต้องลงทุนราว 146,000 ล้านดอลลาร์ภายใน 20 ปี เพื่อพัฒนาเขตเมือง หรือมากกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี” นายฮัน จ่อ กล่าว
รัฐมนตรีรายนี้ ย้ำว่า รัฐบาลเมียนมาจะเดินหน้าทำตามนโยบายพัฒนาเมืองอย่างแข็งแกร่ง เพื่อการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนทั่วประเทศ และโครงการเมืองอัจฉริยะต่างๆ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในแผนการพัฒนาเมืองด้วย
- โฉมหน้าอุตสาหกรรมไอที ยุค ‘ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น – สมาร์ทซิตี้’
- ‘เน็กไซน์’ ส่อง ‘สมาร์ทซิตี้’ สิงคโปร์เมืองต้นแบบ สะท้อนถึงไทย
- ‘เวียดนาม’ จับมือ ‘สุมิโตโม’ ทุ่ม 4 พันล้านดอลล์สร้างเมืองอัจฉริยะ
- เอกชนนำร่อง 2 บิ๊กโปรเจคสมาร์ทซิตี้พื้นที่อีอีซี
