รัสเซียเดินหน้ากระชับสัมพันธ์ทางทหารกับลาวอย่างเงียบๆ ในความพยายามที่จะฟื้นฟูสถานะของตัวเอง ในฐานะผู้เล่นรายสำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา รัสเซีย และลาว เริ่มการฝึกซ้อมรบร่วมเป็นครั้งแรก โดยทหารมากกว่า 500 คน จากทั้ง 2 ประเทศ และรถถังจำนวนหนึ่ง เข้าร่วมในการซ้อมรบ “ลารอส 2019” กำหนด 9 วัน ที่ศูนย์ฝึกทหารบ้านเป็ง ของลาว
อเล็กเซย์ มาสลอฟ ศาสตราจารย์ จาก National Research University Higher School of Economics ของรัสเซีย แสดงความเห็นว่า แม้ว่ากำลังทหารรัสเซียที่เข้าร่วมซ้อมรบในครั้งนี้จะไม่มากนัก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การซ้อมรบนี้ถือเป็นความพยายามครั้งแรกของรัสเซีย ที่จะสร้างบทบาทด้านการทหารในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“ผมคิดว่ารัสเซียมองลาว เป็นจุดหมายแรกสำหรับการนำเสนอบริการด้านการทหารในเอเชีย”
มาสลอฟ อธิบายด้วยว่า รัสเซียตั้งความหวังที่จะใช้การซ้อมรบกับลาว เป็นการกระตุ้นให้ประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กระชับสัมพันธ์ทางทหารกับแดนหมีขาวให้แน่นแฟ้นมากขึ้น และคาดการณ์ว่า รัสเซียจะติดตามผลการซ้อมรบดังกล่าว ด้วยการเสนอขายอาวุธให้กับลาวมากขึ้น และฝึกอบรมทหารลาวในสถาบันทางทหารของรัสเซีย
การซ้อมรบ ลารอส 2019 ยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัฐบาลมอสโก และเวียงจันทน์ กำลังเร่งขยายความร่วมมือทางทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการซื้อขายอาวุธ ถึงขั้นที่นายกรัฐมนตรีทองลุน สีสุลิด เคยประกาศไว้เมื่อปี 2561ว่า “เราสามารถพูดได้ว่าทุกอย่างที่อยู่ในกองทัพลาว มีส่วนเชื่อมโยงกับรัสเซีย”
ดมิทรี มอสยาคอฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา จากสถาบันตะวันออกศึกษา แห่งสถาบันศาสตร์รัสเซีย แสดงความเห็นว่า การกลับเข้ามาในภูมิภาคนี้ของรัสเซีย ไม่ได้อยู่แค่ที่ลาวเท่านั้น แต่รวมถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งภูมิภาค และความร่วมมือด้านเทคนิคทางทหาร ถือเป็นกุญแจสำคัญในเรื่องนี้ เพราะเป็นด้านที่รัสเซียสามารถแซงหน้าสหรัฐ หรือแม้กระทั่งจีนได้
ข้อมูลจากสถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศ ในกรุงสตอกโฮล์ม สวีเดน แสดงให้เห็นว่า ระหว่างปี 2553 – 2560 รัสเซียขายอาวุธให้กับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คิดเป็นมูลค่า 6,600 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่สุดของภูมิภาคนี้
ในทางกลับกัน ช่วงเวลาดังกล่าว สหรัฐขายอาวุธให้กับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คิดเป็นมูลค่า 4,580 ล้านดอลลาร์ และจีนที่ 1,800 ล้านดอลลาร์
ขณะที่ มาสลอฟ บอกด้วยว่า สำหรับกรุงมอสโกแล้ว ลาวถือเป็นพันธมิตรด้านกลาโหมโดยธรรมชาติ แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นไปอย่างจำกัดก็ตาม
“ลาวไม่ได้เป็นประเทศที่เศรษฐกิจพัฒนาไปอย่างดี แต่ก็มีความจำเป็นที่ต้องเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกองทัพอย่างแท้จริง ความสัมพันธ์ตั้งแต่สมัยยุคโซเซียต จะมีบทบาทอย่างมากในการส่งเสริมความร่วมมือทางทหาร”
ทางด้านวลาดิมีร์ มาซีริน ผู้อำนวยการศูนย์เวียดนาม และสมาคมประชาติเอเชียตะวันอออกเฉียงใต้ศึกษา อธิบายถึงสาเหตุเบื้องหลังที่ทำให้รัสเซียกลับมาสนใจภูมิภาคนี้อีกครั้งหนึ่งว่า ส่วนหนึ่งมาจากการที่รัสเซียโดนกีดกันจากชาติตะวันตก จากกรณีวิกฤติยูเครน จึงทำให้ต้องมองหาพันธมิตรใหม่ๆ จากที่อื่น และอาเซียนก็ดึงความสนใจของรัสเซียไว้ได้
มาซีริน กล่าวว่า การที่รัสเซียพยายามขายอาวุธในอาเซียนนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องของการเปิดตลาดใหม่เท่านั้น แต่ยังช่วยรับประกันเสถียรภาพในภูมิภาคนี้ ซึ่งในสายตาของกรุงมอสโกนั้น การสานสัมพันธ์นี้ หมายความถึง การป้องกันไม่ให้ทั้งสหรัฐ และจีน ครองอิทธิพลในภูมิภาคนี้