ชาวเมียนมาหลายพันคนออกมาเดินขบวนเมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.) เพื่อแสดงพลังสนับสนุน “อองซาน ซูจี” ก่อนหน้าการเดินทางไปยังเนเธอร์แลนด์ในวันนี้ (8 ธ.ค.) เพื่อขึ้นศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก โต้ข้อกล่าวหาที่ว่า เมียนมาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในประเทศ
การเดินขบวนในกรุงเนปิดอว์ ยังเกิดขึ้นวันเดียวกับที่รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเดินทางเยือนเมียนมา ตามคำเชิญของนางซูจี
บรรดานักวิเคราะห์ระบุว่า ตำแหน่งสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และการสิทธิคัดค้านของจีน ทำให้จีนถือเป็นพันธมิตรที่มีค่า ในช่วงเวลาที่เมียนมากำลังเผชิญกับการตรวจสอบอย่างหนักต่อวิธีปฏิบัติต่อชาวโรฮิงญา
แม้การที่นางซูจี ที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับการยกย่องอย่างมากในเรื่องการเรียกร้องประชาธิปไตยในบ้านเกิดนั้น ตัดสินใจที่จะขึ้นให้การที่ศาลโลก เพื่อปกป้องเมียนมาด้วยตัวเองนั้น จะยิ่งทำให้เธอเสี่ยงที่จะเสียชื่อเสียงมากขึ้น ในสายตาประชาคม แต่สำหรับชาวเมียนมาแล้ว เธอยังได้รับความนับถืออย่างมาก และให้การสนับสนุนต่อการเคลื่อนไหวในครั้งนี้
“เราภูมิใจในตัวเธอ ที่จะเดินทางไปยังกรุงเฮค เพื่อปกป้องภาพลักษณ์ของประเทศ เราจะยืนเคียงข้างผู้นำของเธอ” ฮติน ลิน อู นักเขียน ที่ร่วมในการเดินขบวนครั้งนี้ กล่าวต่อหน้าผู้ชุมนุม ขณะขึ้นเวทีปราศรัย
ทั้งนี้ แกมเบียเป็นผู้ยื่นฟ้องเมียนมาต่อศาลโลก โดยกล่าวหาเมียนมาละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและลงโทษความผิดอาญาฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ จากการกวาดล้างชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญา เมื่อปี 2560 ซึ่งศาลโลกกำหนดที่จะไต่สวนเรื่องนี้ระหว่างวันที่ 10-12 ธันวาคมนี้
ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่ามีชาวโรฮิงญาราว 740,000 คนที่หลบหนีเข้าไปอยู่ในบังคลาเทศ ทั้งยังมีการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการฆาตกรรม ข่มขืน และทารุณ อันเป็นความรุนแรงที่คณะเจ้าหน้าที่สอบสวนของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า เป็นความพยายามที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์