มหาเศรษฐีเจ้าพ่อสื่อ “ไมเคิล บลูมเบิร์ก” อดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก มหานครใหญ่สุดของสหรัฐ ประกาศตัวสมัครชิงตำแหน่งผู้แทนพรรคเดโมแครต ลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เล็งทุ่มงบก้อนโตหาเสียง
สื่อต่างประเทศรายงานว่า การตัดสินใจของนายบลูมเบิร์ก ถือเป็นการกระโดดเข้าสนามแข่งขันที่ช้ากว่าคนอื่นอย่างมาก และยังเหลือเวลาเพียงแค่ 3 เดือน ก่อนที่การลงคะแนนเสียงเลือกผู้แทนพรรคเดโมแครตในรายรัฐ จะเปิดฉากขึ้นเป็นครั้งแรก สะท้อนให้เห็นถึงความไม่มั่นใจของเขาว่า จะมีผู้สมัครรายใด ในผู้สมัครอีก 17 รายของพรรคเดโมแครต ที่จะสามารถโค่นประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันลงได้ หลังในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เขาเคยบอกว่า จะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
“ผมลงเลือกตั้งประธานาธิบดี ก็เพื่อเอาชนะโดนัลด์ ทรัมป์ และฟื้นฟูอเมริกาขึ้นมาใหม่” บลูมเบิร์ก วัย 77 ปี อดีตสมาชิกพรรรีพับลิกัน ประกาศในวันเปิดตัวแคมเปญหาเสียงของเขาเมื่อวานนี้ (24 พ.ย.)
“เราทนอยู่กับการกระทำอันมุทะลุ และผิดจรรยาบรรณของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อไปอีก 4 ปีไม่ได้แล้ว”
บลูมเบิร์ก ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอของสื่อใหญ่อย่าง บลูมเบิร์ก แอลพี มีความได้เปรียบทางด้านการเงินต่อคู่แข่งในเดโมแครตด้วยกันเอง โดยมีการเปิดเผยออกมาแล้วว่า เขาได้จ่ายเงินไปแล้วอย่างน้อย 31 ล้านดอลลาร์ สำหรับการโฆษณาทางโทรทัศน์ ที่จะนำออกเผยแพร่ในรัฐต่างๆ ทั่วสหรัฐในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ ซึ่งถือเป็นงบโฆษณาสูงสุดสำหรับการประชาสัมพันธ์ทางการเมือง
นิตยสารฟอร์บส์ จัดอันดับให้เขาเป็นบุคคลที่มีฐานะร่ำรวยสุดเป็นอันดับ 8 ของสหรัฐ ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ราว 53,100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งความมั่งคั่งนี้จะทำให้เขาได้เปรียบในการหาเสียง เพราะไม่ต้องระดมทุนหาเงินมาใช้เพื่อการทำแคมเปญ และว่าจ้างเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
