เศรษฐกิจส่งสัญญาณถึงความตึงเครียดเพิ่มมากขึ้น ด้วยข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวอย่างรุนแรงในการใช้จ่ายของผู้บริโภค และการผลิตโรงงาน ขณะที่การขยายตัวในด้านการลงทุน แตะระดับสุดเป็นประวัติ ผลจากการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ
วันนี้ (14 พ.ย.) สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน เปิดเผยว่า เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ยอดค้าปลีก ซึ่งเป็นมาตรวัดการใช้จ่ายของผู้บริโภค ขยายตัว 7.2% ลดลง 0.6% จากเดือนกันยายน และน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้
ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน ยังแสดงให้เห็นว่า การขยายตัวของผลผลิตอุตสาหกรรมอยู่ที่ 4.7% ลดลงจากที่ขยายตัวในเดือนก่อนหน้า 5.8% และการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนคงที่ขยายตัว 5.2% ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ แตะระดับสุดเป็นประวัติการณ์ และน้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 5.2%
นายหลิว อ้ายหัว เจ้าหน้าที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน เตือนว่า จีนกำลังเผชิญกับสถานการณ์เศรษฐกิจระหว่างประเทศที่มีความซับซ้อน และเศรษฐกิจในประเทศก็ต้องรับมือกับแรงกดดันขาลง
กลุ่มนักวิเคราะห์เตือนด้วยว่า จีนอาจเจอปัญหาต่างๆ มากกว่านี้ และว่าไม่ใช่แค่ข้อมูลเศรษฐกิจเดือนที่แล้วที่ซบเซาเท่านั้น แต่จะมีความอ่อนแอที่รออยู่ในอนาคตอีก
ข้อมูลเศรษฐกิจข้างต้นยังเกิดขึ้นหลังช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาท จีนเพิ่งเปิดเผยข้อมูลราคาโรงงาน ที่ร่วงลงไปในระดับเร็วสุดในรอบ 3 ปี ผลจากการชะลอตัวในยอดสั่งซื้อ ขณะที่ราคาเงินเฟ้อผู้บริโภค ก็ได้แรงหนุนจากราคาเนื้อหมูที่แพงขึ้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
