รัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ โดยจะเรียกเก็บในอัตรา 10% ซึ่งครอบคลุมถึงสินค้าจำนวน 6,031 รายการ ตั้งแต่สินค้าเพื่อผู้บริโภคไปจนถึงสินค้าด้านการเกษตร หลังจาก 2 ฝ่าย ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาททางการค้า โดยคาดว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมในครั้งนี้จะมีผลบังคับใช้ในเดือนกันยายน
นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) กล่าวว่า เป็นเวลากว่า 1 ปีที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เรียกร้องให้จีนยุติการดำเนินนโยบายการค้าที่ไม่เป็นธรรม รวมทั้งเรียกร้องให้จีนเปิดตลาด และเข้าสู่ระบบการแข่งขันในตลาดอย่างแท้จริง แต่แทนที่จีนจะดำเนินการตามคำร้องขอของสหรัฐ จีนกลับใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้า ซึ่งจีนไม่มีความชอบธรรมในการกระทำเช่นนั้น
นายไลท์ไฮเซอร์ บอกด้วยว่า การที่จีนใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้า และไม่ยอมเปลี่ยนแปลงการดำเนินนโยบายการค้า ทำให้ผู้นำสหรัฐมีคำสั่งให้ยูเอสทีอาร์เริ่มกระบวนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ ในอัตรา 10%
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากทรัมป์ส่งสัญญาณเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในวงเงินสูงกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเกือบเท่ากับมูลค่าสินค้าที่สหรัฐนำเข้าจากจีนทั้งหมดในปีที่แล้ว
การตัดสินใจล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐยังมีขึ้นหลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(6 ก.ค.) สหรัฐได้เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนกว่า 800 รายการ ในอัตรา 25% คิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐในวงเงินที่เท่ากัน
