การที่ประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปิเนรา ผู้นำชิลี ประกาศยกเลิกการจัดประชุมผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (เอเปค) ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 16-17 พฤศจิกายนนี้ จุดชนวนให้เกิดความกังวลขึ้น ถึงกำหนดเวลาในการทำ “ข้อตกลงการค้าส่วนแรก” ระหว่างสหรัฐ กับจีน ที่ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์กันเป็นวงกว้างว่า ผู้นำ 2 ฝ่ายจะลงนามกันนอกรอบการประชุมเอเปค ที่ชิลี
โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า สหรัฐกำลังเดินหน้า เพื่อทำให้ส่วนแรกของข้อตกลงการค้าครั้งประวัติศาสตร์กับจีนเสร็จสิ้นลงตามกรอบเวลาเดิม และจะประกาศให้รู้ต่อไป
ทางด้านกลุ่มคลังสมองยูเรเซีย แสดงความเห็นในวันนี้ว่า การที่แผนการประชุมที่กรุงซานติอาโก ชิลีล่มไปแล้ว สหรัฐ และจีนจำเป็นต้องหาสถานที่ใหม่ที่เป็นกลาง หรือมีศักยภาพที่จะจัดการประชุมขึ้นมา
ยูเรเซีย บอกด้วยว่า การยกเลิกประชุมผู้นำเอเปคนั้น ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้นในเรื่องกำหนดเวลาสำหรับข้อตกลงการค้าส่วรแรก แต่ความเสี่ยงที่ว่า อาจจะล่าช้าออกไปจนถึงปี 2563 หรือการเจรจาล่มนั้น มีอยู่น้อยมาก
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า จีนได้เสนอที่จะจัดการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนขึ้นที่มาเก๊า ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่า หากจีนทำให้ทรัมป์เดินทางไปยังมาเก๊า ซึ่งอยู่ติดกับฮ่องกง ที่กำลังเกิดการประท้วงอย่างหนักขึ้นมา ก็อาจจะถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญสำหรับประธานาธิบดีสี
ก่อนหน้าที่ชิลีจะประกาศยกเลิกการจัดประชุมนั้น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวประจำวันว่า คณะเจรจาของ 2 ประเทศยืนยันว่า การหารือทางด้านเทคนิค เกี่ยวกับเนื้อหาบางส่วนของข้อตกลงเสร็จสมบูรณ์แล้ว
