ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (29 ต.ค.) เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แม้จะมีความหวังถึงความก้าวหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาในสัปดาห์นี้
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น 107.13 จุด หรือ 0.47% ที่ 22,974.40 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงขยับลงมา 43.05 จุด หรือ 0.16% ที่ 26,848.21 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ลดลง 12.26 จุด หรือ 0.41% ที่ 2,967.79 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ บวก 28.72 จุด หรือ 0.90% ที่ 3,214.25 จุด
ขณะที่ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ (28 ต.ค.) ที่ 27,090.72 จุด เพิ่มขึ้น 132.66 จุด หรือ 0.49% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,039.42 จุด เพิ่มขึ้น 16.87 จุด หรือ 0.56% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 8,325.99 จุด เพิ่มขึ้น 82.87 จุด หรือ 1.01%
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า เขาคาดว่าจะสามารถลงนามในส่วนสำคัญของข้อตกลงการค้ากับจีนได้ก่อนกำหนด แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดถึงกำหนดเวลาที่ชัดเจน
สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ก็ออกมาบอกเช่นเดียวกันว่า กำลังพิจารณาว่าจะขยายเวลาการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 34,000 ล้านดอลลาร์ ที่กำหนดจะหมดอายุลงในวันที่ 28 ธันวาคมนี้ออกไปหรือไม่
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ดูเหมือนตลาดจะแปรความหมายของท่าทีดังกล่าวว่า เป็นแนวโน้มที่ดีขึ้นในการเจรจาการค้า เพราะมีสัญญาณบวกว่า สหรัฐอาจจะระงับแผนการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 160,000 ล้านดอลลาร์ ที่มีกำหนดไว้ในเดือนธันวาคม
สัปดาห์นี้ นอกจากธนาคารกลางสหรัฐแล้ว แบงก์ชาติญี่ปุ่น และแคนาดา ก็มีกำหนดการประชุมเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายเช่นกัน ซึ่งคาดว่าอาจมีการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มขึ้นอีก เพื่อป้องกันไม่ให้ค่าเงินแข็งค่าเพิ่มขึ้น
ส่วนราคาน้ำมันดิบในเอเชียเช้านี้ ขยับขึ้นเล็กน้อย โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้นมา 12 เซนต์ ที่ 61.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ ที่ 55.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
