รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ “บอริส จอห์นสัน” ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งแล้วในวันจันทร์ (9 ก.ค.) เพียงวันเดียวหลังจากที่ “เดวิด เดวิส” รัฐมนตรีเบร็กซิทอำลาเก้าอี้
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ความขัดแย้งในรัฐบาลอังกฤษเริ่มบานปลายมากขึ้น เมื่อนายบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศ ตัดสินใจยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง สถานการณ์ที่ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ในเรื่องนโยบายเบร็กซิทมากขึ้น
นายจอห์นสัน กลายเป็นรัฐมนตรีรายที่ 2 ที่ลาออกจากตำแหน่ง และเกิดขึ้นเพียงไม่นานก่อนที่นางเมย์ จะเริ่มแถลงต่อรัฐสภาเกี่ยวกับแผนการเบร็กซิทฉบับใหม่ของเธอ ที่สร้างความไม่พอใจให้กับส.ส.ฝ่ายอนุรักษ์นิยมเป็นจำนวนมาก
ผู้นำอังกฤษ ระบุว่า เธอไม่เห็นด้วยกับอดีตรัฐมนตรีทั้ง 2 ราย เกี่ยวกับวิธีการที่ดีที่สุดที่จะให้เกียรติต่อผลการลงประชามติเมื่อปี 2559
ทางด้านนักวิเคราะห์ แสดงความเห็นว่า การลาออกของนายจอห์นสัน จะทำให้สถานการณ์อันน่าอับอาย และยากลำบากของนางเมย์ เปลี่ยนเป็นวิกฤติทางการเมืองอย่างเต็มที่ และทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ถึงความท้าทายในฐานะผู้นำของเธอ
สหราชอาณาจักรมีกำหนดที่จะออกจากสหภาพยุโรป(อียู)ในวันที่ 29 มีนาคม 2562 แต่จนถึงขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในเรื่องสถานการณ์การค้าภายหลังจากนั้น
ปธ.อียูหวังอังกฤษเปลี่ยนนโยบาย
ทางด้านนายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานอียู แสดงความหวังว่า การลาออกอย่างกระทันหันของรัฐมนตรีระดับสูงของอังกฤษ อาจทำให้รัฐบาลแดนผู้ดีเกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านนโยบายเบร็กซิท
นายทัสค์ ทวีตข้อความหลังนายจอห์นสัน ซึ่งเป็นหนึ่งในนักการเมืองทรงอิทธิพลของอังกฤษ ประกาศลาออกได้ไม่กี่นาทีว่า นักการเมืองมาแล้วก็ไป แต่ปัญหาที่พวกเขาสร้างไว้ให้กับผู้คนยังถูกทิ้งเอาไว้ และว่า เขาได้แต่เสียใจที่แนวคิดเกี่ยวกับเบร็กซิท ไปไม่ได้กับนายเดวิส และนายจอห์นสัน แต่ใครจะรู้…
ทั้งนี้ นายจอห์นสัน และนายเดวิส ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เปิดเผยนโยบายของเธอ ที่จะรักษาสายสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกับอียูไว้ หลังจากที่ออกจากการเป็นสมาชิก