ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (17 ต.ค.) ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย จากการเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหุ้นบางตัว แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ และความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะตกอยู่ในภาวะถดถอย จากข้อมูลค้าปลีกแดนอินทรีที่ออกมาซบเซา
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น ขยับขึ้นมา 27.93 หรือ 0.12% ที่ 22,500.85 จุด ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงเพิ่มขึ้น 261.54 จุด หรือ 0.98% ที่ 26,925.82 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีนบวก 0.72 จุด หรือ 0.02% ที่ 2,979.43 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ ลดลง 4.76 จุด หรือ 0.15% ที่ 3,129.95 จุด
ขณะที่ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้(16 ต.ค.)ที่ 27,001.98 จุด ลดลง 22.82 จุด หรือ 0.08% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,989.69 จุด ลดลง 5.99 จุด หรือ 0.20% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 8,124.18 จุด ลดลง 24.52 จุด หรือ 0.30%
เมื่อคืนนี้ สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนกันยายน หดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนในประเด็นฮ่องกง ยังสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาด และยังได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน
ทางด้านราคาน้ำมันดิบ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดเอเชีย ปรับตัวลงมาเล็กน้อย จากการที่สหรัฐเปิดเผยปริมาณน้ำมันดิบสำรองสูงกว่าที่คาดการณ์กันไว้ โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ลดลง 0.82% muj 58.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียท ของสหรัฐ ลดลง 1.01% ที่ 52.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
