World News

วอลล์สตรีทขยับตัวช่วงแคบ กังวลสหรัฐหนุนฮ่องกงเพิ่มขัดแย้งจีน

ตลาดหุ้นสหรัฐซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (16 ต.ค.) เคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ โดยดาวโจนส์ขยับขึ้นเล็กน้อย แรงหนุนจากแบงก์ ออฟ อเมริกา รายงานผลกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะขาลงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ท่ามกลางความกังวลเรื่องที่สหรัฐผ่านร่างกฎหมายสนับสนุนฮ่องกง จะทำให้เกิดความขัดแย้งกับจีนมากขึ้น ฉุดเอสแอนด์พี 500 และแนสแด็ก เคลื่อนไหวในแดนลบ

stock market afp 720x480

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดขยับขึ้นมา 21.78 จุด หรือ 0.08% ที่ 27,046.58 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 1.38 จุด หรือ 0.05% ที่ 2,994.30 จุด และดัชนีแนสแด็กลบ 18.54 จุด หรือ 0.23% ที่ 8,130.17 จุด

ราคาหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ทะยานขึ้น 2.2% หลังรายงานผลกำไรไตรมาส 3 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เพราะธนาคารรายใหญ่สุดอันดับ 2 ของสหรัฐรายนี้ มีรายได้จากค่าธรรมเนียมที่ปรึกษา และการปล่อยกู้เพิ่มมากขึ้น

การรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของภาคธนาคาร รวมถึง เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค แบงก์ ออฟ ยอร์ก เมลลอน คอร์ป และซิตี้กรุ๊ป ที่ประกาศมาก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นว่า ความมั่นใจของผู้บริโภคยังแข็งแกร่ง แม้จะมีความกังวลถึงเรื่องเศรษฐกิจถดถอย ที่ทำให้ธุรกิจลดการใช้จ่าย และกู้ยืมก็ตาม

อย่างไรก็ดี ขาขึ้นของดาวโจนส์ยังโดนสกัดจากการที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ผ่านร่างกฎหมาย 3 ฉบับที่ให้การสนับสนุนการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง จนถูกจีนขู่ที่จะตอบโต้กลับ หากมีการผ่านเป็นกฎหมายออกมา ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่า จีนและสหรัฐ จะเกิดความขัดแย้งมากขึ้น แม้ว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงการค้าในส่วนแรกไปแล้วก็ตาม

ความกังวลดังกล่าว ฉุดให้ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ที่อ่อนไหวกับเรื่องนี้ ร่วงลงมา รวมถึง ราคาหุ้นของอะโดบี ที่ดิ่งลง 3.8% หลังซิตี้กรุ๊ปปรับลดราคาประเมินหุ้นของผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ตกแต่างรูปภาพรายนี้

Avatar photo