กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ระบุ สงครามการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ จะทำให้เศรษฐกิจโลกในปี 2562 โตช้าสุด นับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินโลกเมื่อปี 2551-2552 ทั้งแนวโน้มยังอึมครึมมากขึ้น หากความตึงเครียดทางการค้ายังไม่คลี่คลาย
ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฉบับล่าสุดนั้น ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.0% จากที่ประเมินไว้ 3.2% เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งทางการค้าโลก
รายงานยังให้รายละเอียดเกี่ยวกับความยากลำบากทางเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ที่โลกกำลังเผชิญอยู่ ที่มีสาเหตุมาจากการทำสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ทั้งในเรื่องต้นทุนโดยตรง ตลาดปั่นป่วน การลงทุนลดลง และผลผลิตที่ลดต่ำลง เพราะการติดขัดในเรื่องซัพพลายเชน
ไอเอ็มเอฟ ระบุด้วยว่า ภายในปี 2563 การขึ้นภาษีโต้ตอบกันของ 2 ชาติเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดของโลก จะทำให้ผลผลิตโลกลดลง 0.8% โดยนางคริสตาลินา จอร์เจียว่า ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟคนใหม่ กล่าวไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผลผลิตที่ลดลงดังกล่าวหมายถึงการขาดทุนราว 700,000 ล้านดอลลาร์ หรือเทียบเท่ากับขนาดเศรษฐกิจของสวิตเซอร์แลนด์
สำหรับปี 2563 ไอเอ็มเอฟ ประเมินว่า เศรษฐกิจโลกจะโตขึ้นเล็กน้อยที่ 3.4% แรงหนุนจากเศรษฐกิจบราซิล เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย และตุรกี ที่คาดว่าจะดีขึ้น
แต่ตัวเลขนี้ยังต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และมีความผันผวนต่อความเสี่ยงขาลง อย่าง ความตึงเครียดทางการค้าที่ย่ำแย่ลง การติดขัดจากปัญหาเรื่องเบร็กซิท และความเสี่ยงจากตลาดการเงิน
ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของกลุ่มประเทศที่มีเศรษฐกิจก้าวหน้าสู่ระดับ 1.7% ในปีนี้ จาก 2.3% ในปีที่แล้ว ส่วนการขยายตัวของประเทศในตลาดเกิดใหม่ถูกปรับลดลงสู่ระดับ 3.9% ในปีนี้ จาก 4.5% ในปีที่แล้ว
ขณะเดียวกันได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของสหรัฐในปีนี้สู่ระดับ 2.4% จากระดับ 2.9% ในปีที่แล้ว และคาดว่าในปีหน้า เศรษฐกิจสหรัฐจะมีการเติบโต 2.1% ส่วนส่วนเศรษฐกิจยูโรโซน คาดว่าจะขยายตัวในปีนี้ ที่ระดับ 1.2% จากระดับ 1.9% ในปีที่แล้ว และคาดว่าในปีหน้าจะมีการเติบโต 1.4%
ไอเอ็มเอฟยังคาดว่า เศรษฐกิจเยอรมนีจะมีการขยายตัว 0.5% ในปีนี้ และ 1.2% ในปีหน้า ขณะที่เศรษฐกิจจีนจะมีการขยายตัว 6.1% ในปีนี้ และ 5.8% ในปีหน้า ซึ่งเป็นอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 90
นางจีตา โกปินาธ หัวหน้าคณะนักเศรษฐศาสตร์ไอเอ็มเอฟ เตือนด้วยว่าเศรษฐกิจโลกกำลังตกอยู่ในภาวะล่อแหลม และไม่มีพื้นที่เหลือสำหรับการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดแล้ว และยังเป็นความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบาย ที่จะต้องร่วมมือกันเพื่อลดความตึงเครียดด้านการค้า และภูมิศาสตร์การเมือง
อย่างไรก็ดี สงครามการค้าไม่ได้เป็นสาเหตุเดียวที่ทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอการเติบโตลง แต่ยังรวมถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนที่ลดลงด้วย
