ผู้ประท้วงฮ่องกง 2 คน ถูกตั้งข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งห้ามสวมหน้ากากเข้าร่วมการชุมนุม นับเป็นผู้ต้องหา 2 รายแรกที่ถูกตั้งข้อหาดังกล่าว
นักศึกษาวัย 18 ปี และหญิงสาววัย 38 ปี เป็น 2 ผู้ประท้วงชุดแรกที่ถูกดำเนินคดีจากการละเมิดคำสั่งห้ามสวมหน้ากากเข้าร่วมการชุมนุม ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา ภายใต้การประกาศภาวะฉุกเฉิน ที่มีเป้าหมายเพื่อสกัดกั้นเหตุรุนแรงที่เกิดจากการประท้วง เพื่อเรียกร้องเสรีภาพมากขึ้น
บุคคลทั้ง 2 รายนี้ ถูกควบคุมตัวตั้งแต่ช่วงเช้าวันเสาร์ (5 ต.ค.) หลังจากที่คำสั่งห้ามมีผลบังคับใช้ได้ไม่นานนัก ทั้งคู่ยังถูกดำเนินคดีในข้อหาเข้าร่วมการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ที่มีบทลงโทษสูงสุดเป็นการจำคุก 5 ปี ส่วนคำสั่งห้ามสวมหน้ากากนั้น มีโทษสูงสุดเป็นการจำคุก 1 ปี และเสียค่าปรับจำนวนหนึ่ง
อย่างไรก็ดี ในการขึ้นศาลวันนี้ (7 ต.ค.) ศาลอนุญาตให้ทั้งคู่ประกันตัวได้ ระหว่างรอการพิจารณาคดี
ระหว่างการไต่สวนนั้น บริเวณด้านนอกศาลมีผู้คนจำนวนมากมาร่วมชุมนุมกัน เพื่อแสดงพลังสนับสนุนบุคคลทั้ง 2 ราย ประกันตัวระหว่างรอการพิจารณาคดี
ทั้งนี้ การชุมนุมประท้วงในฮ่องกงที่ยืดเยื้อมาหลายเดือน ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตำรวจฮ่องกงพยายามสลายการชุมนุมประท้วงโดยใช้แก๊สน้ำตา รวมทั้งจับกุมผู้ประท้วงไปแล้วหลายคน