เหตุประท้วง และความไม่สงบใน “ฮ่องกง” ที่ยืดเยื้อมานานหลายเดือน ทำนักลงทุนพากันหนีออกจากดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเงินของโลก โดยโยกเงินลงทุนเข้ามาไว้ที่ “สิงคโปร์” ศูนย์กลางการเงินอีกแห่งหนึ่งของเอเชีย
รายงานของกูร์พรีท ซิงห์ ซาฮี และหยิงเชียง กั๋วะ 2 นักวิเคราะห์โกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจชั้นนำจากสหรัฐ แสดงให้เห็นว่า มีเม็ดเงินมากถึง 4,000 ล้านดอลลาร์ที่ไหลออกจากฮ่องกง จากเหตุประท้วงดังกล่าว
นักวิเคราะห์ 2 รายนี้ประเมินว่า เงินไหลออกจากฮ่องกงช่วง 3 เดือนล่าสุดมีมูลค่าราว 3,000 – 4,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ยอดเงินฝากสกุลเงินท้องถิ่นในฮ่องกงลดลงราว 1.6% ถือเป็นการลดลงมากสุดในรอบปีนี้ ตอกย้ำให้เห็นถึงผลกระทบที่การประท้วงมีต่อตลาดการเงิน
รายงานบอกด้วยว่า มีแนวโน้มที่จะเกิดเงินทุนไหลออกอย่างต่อเนื่อง จากการที่ยังไม่มีท่าทีว่าเหตุประท้วงจะยุติลงในเร็ววันนี้
การประท้วงที่เกิดขึ้น ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ตลาดตกอยู่ในภาวะผันผวนครั้งใหญ่ โดยนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา ดัชนีในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงร่วงลงมาแล้วถึง 17.9%
ข้อมูลจากกรมการเงินสิงคโปร์ ซึ่งทำหน้าที่เทียบเท่ากับธนาคารกลางของประเทศ ยังแสดงให้เห็นว่า นับถึงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ธนาคารในสิงคโปร์ ทั้งที่เป็นธนาคารท้องถิ่น และธนาคารต่างชาติ มียอดเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 9,300 ล้านดอลลาร์ โดยในเดือนกรกฎาคม และสิงหาคม มียอดเงินฝากเข้ามาสูงสุด เพิ่มขึ้นถึง 64%
