รายงานชี้ เศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแนวโน้มจะพุ่งขึ้นถึง 300,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2568 จากการที่ผู้คนหลายล้านคนในภูมิภาคนี้ นิยมช้อปปิ้งออนไลน์ และใช้บริการส่งอาหารมากขึ้น
รายงานที่จัดทำขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่าง กูเกิล ยักษ์ใหญ่ด้านเสิร์ชเอนจิ้นโลก เทมาเส็ก บริษัทด้านการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ และเบน แอนด์ คัมปานี บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจระดับโลก ระบุว่า อุตสาหกรรมออนไลน์ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะเติบโตขึ้นถึง 200% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีมูลค่าอยู่ราว 100,000 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ยังปรับเพิ่มการคาดการณ์แนวโน้มสำหรับปี 2568 จากเดิมที่ประเมินไว้ว่าจะมีมูลค่าอยู่ราว 240,000 ล้านดอลลาร์ มาอยู่ที่ประมาณ 300,000 ล้านดอลลาร์ หลังช่วง 4 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมนี้เติบโตขึ้นถึง 3 เท่า เนื่องจากบรรดาคนหนุ่มสาวที่ใช้อินเทอร์เน็ต พากันใช้มือถือของตัวเองทำทุกอย่าง ไล่ตั้งแต่ธนาคารออนไลน์ และเล่นเกม ไปจนถึงการซื้อตั๋วเครื่องบิน
“อัตราการเติบโตนี้เหนือความคาดหมายอย่างมาก โดยปัจจุบัน ประชากรส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย และผู้บริโภคก็มีความไว้วางใจในบริการดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ”
รายงานยังพบว่า ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มีเม็ดเงินเข้าลงทุนในบริษัทออนไลน์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่า 37,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่เป็นการเข้าลงทุนในบริษัทอีคอมเมิร์ซ อย่าง ไซลิงโก ผู้ค้าปลีกแฟชั่น และสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น
ด้านบริการรถรับส่งผ่านแอปพลิเคชัน อย่าง แกร็บ และโกเจ็ก ซึ่งบริการประเภทนี้เพียงอย่างเดียว มีมูลค่าอุตสาหกรรมสูงถึง 13,000 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าจากเมื่อปี 2558 และคาดว่าจะทะยานขึ้นไปอยู่ในระดับเกือบ 40,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2568 เมื่อบริการส่งอาหาร มีมูลค่าเทียบเท่ากับบริการรับส่งผู้โดยสาร
ทั้งนี้ การที่เศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีอัตราเติบโตโดยเฉลี่ยปีละ 5% มาตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งสูงกว่าการขยายตัวโดยเฉลี่ยของเศรษฐกิจโลก ทำให้ภูมิภาคนี้ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้ามาเป็นจำนวนมาก ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจจีนกำลังอยู่ในสภาพติดขัด จากการสงครามการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ
