ในเดือนกรกฎาคมทีผ่านมา การทำธุรกรรมในตลาดโลกที่เกี่ยวข้องกับ “หยวน” เงินสกุลหลักของจีน ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 เนื่องจากการประท้วงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน ลดปริมาณการค้า และทำให้เงินหยวนอ่อนค่าลงอย่างหนัก
ข้อมูลจากสวิฟท์ ผู้จัดหาบริการส่งข้อความทางการเงิน แสดงให้เห็นว่า เมื่อเดือนที่แล้ว ส่วนแบ่งเงินหยวนในตลาดชำระเงินระหว่างประเทศ ร่วงลงมาเหลือเพียงแค่ 1.81% จากระดับ 1.99% ในเดือนมิถุนายน ติดอยู่ในอันดับ 6 ของค่าเงินที่ใช้ทำธุรกรรมการเงินโลก
การใช้เงินหยวนเป็นสกุลเงินหลักในการชำระเงินระหว่างประเทศ ยังมีปริมาณน้อยกว่าเงินดอลลาร์ ที่คิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของยอดการขำระเงินระหว่างประเทศ ตามด้วยยูโร ที่สัดส่วน 34% เท่ากับเงินปอนด์ อังกฤษ และเงินเยนญี่ปุ่น
การทำธุรกรรมด้วยเงินหยวนนอกประเทศจีน มักเกิดขึ้นใน หรือผ่านทางฮ่องกงเป็นส่วนใหญ่ คิดเป็นสัดส่วนราว 3 ใน 4 ของการทำธุรกรรมเงินหยวนในต่างประเทศ
แต่เหตุประท้วงต่อต้านคณะเจ้าหน้าที่บริหารเกาะฮ่องกง ที่เกิดขึ้นทุกสุดสัปดาห์ มานาน 13 สัปดาห์ติดต่อก้น ประกอบกับผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ
แต่เหตุประท้วงต่อต้านคณะเจ้าหน้าที่บริหารเกาะฮ่องกง ที่เกิดขึ้นทุกสุดสัปดาห์มานานกว่า 5 เดือน ประกอบกับผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐท สร้างความเสียหายถึง 2 ต่อให้กับแผนการของจีน ที่จะทำให้หยวนกลายเป็นสกุลเงินสากล ที่ใช้เป็นวงกว้างทั่วโลก
เซียะ หลี่ นักเศรษฐศาสตร์จากบีบีวีเอ ธนาคารสัญชาติสเปน แสดงความเห็นว่า เหตุประท้วงในฮ่องกง ทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นตกอยู่ท่ามกลางความมืดมน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในธุรกิจค้าปลีก และการท่องเที่ยว ที่มักจะเป็นธุรกิจที่ยอมให้นักท่องเที่ยวจีนแผ่นดินใหญ่ ชำระค่าสินค้า หรือบริการด้วยเงินหยวน
“เหตุความไม่สงบในฮ่องกง ทำให้การใช้เงินหยวนลดน้อยลงไปอีก เพราะเงินหยวนเป็นสกุลเงินที่ใช้กันเป็นวงกว้างในเขตปกครองพิเศษแห่งนี้ ตอนนี้นักท่องเที่ยวหดหายไป และการใช้เงินหยวนก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ด้วย”
ทั้งนี้ ฮ่องกงถือเป็นศูนย์กลางของการใช้เงินหยวนในต่างแกน คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 75% ของการใช้เงินหยวนในการชำระเงินระหว่างประเทศ ตามด้วยอังกฤษที่ 5.9% และสิงคโปร์ที่ 3.5%
ตามความเป็นจริงนั้น อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของเงินหยวนในฮ่องกง อ่อนค่าลงมาตั้งแต่ที่จะเกิดการประท้วงหลายเดือนแล้ว ซึ่งการที่หลายฝ่ายมองว่า เงินหยวนมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง จากการทำสงครามการค้ากับสหรัฐนั้น ยิ่งทำให้นักลงทุน และผู้บริโภคมีความต้องการใช้เงินสกุลหลักของจีนน้อยลง
“สัดส่วนของเงินหยวนในตลาดชำระเงินระหว่างประเทศ ยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่จีนปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าลงมาอย่างมาก ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา” เซียะ ระบุ
นับตั้งแต่เกิดข้อพิพาททางการกับสหรัฐ เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว จีนได้ปล่อยให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของเงินหยวนอ่อนค่าลงมามากถึง 15% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เพื่อรับมือกับผลกระทบจากการขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนในดินแดนอเมริกัน
ยูจีเนีย ฟาบอน วิคตอริโน หัวหน้ากลยุทธ์เอเชีย จากเอสอีบี มาร์เก็ตส์ ประเมินว่า เงินหยวนจำเป็นต้องอ่อนค่าลงไปถึงประมาณ 7.8 หยวนต่อดอลลาร์ ภายในสิ้นปีนี้ จึงจะดูดซับผลกระทบที่แท้จริงจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐทั้งที่ขึ้นไปแล้ว และมีแผนที่จะขึ้นใหม่
ขณะที่แครี หลี่ นักเศรษฐศาสตร์ จากโอซีบีซี วิงฮั่ง แบงก์ ชี้ว่า ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ ทำให้กระแสการค้าระหว่าง 2 ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดของโลก ชะลอตัวลงอย่างมาก ซึ่งเรื่องนี้ได้ส่งผลกระทบต่อการชำระเงินข้ามแดนด้วยเงินหยวน
“กระบวนการทำให้เงินหยวนกลายเป็นสกุลเงินสากล ผ่านการใช้ชำระเงินข้ามแดนล่าช้าเพิ่มขึ้น เพราะผลกระทบจากสงครามการค้า และปริมาณการค้าของจีนที่หดตัวลง ทั้งในอีกด้านหนึ่งนั้น ความต้องการเงินหยวนของต่างชาติก็ร่วงลงด้วย เพราะเงินหยวนอ่อนค่าลงอย่างมาก”
ที่มา : South China Morning Post
- ‘สี จิ้นผิง’ เตือน ‘ประท้วงรุนแรง’ คุกคามหลักบริหารฮ่องกง ชี้ต้องยุติทันที
- ‘ฮ่องกง’ เสี่ยงแดนมิคสัญญี ความรุนแรงเพิ่มทั่วเกาะ ลามถึง ‘มหาวิทยาลัย-ย่านธุรกิจ’
- สหรัฐจับตาสถานการณ์ฮ่องกง ร้อง 2 ฝ่ายร่วมแก้ปัญหา
- ตำรวจฮ่องกงยิงผู้ประท้วง ขณะแฟลชม็อบป่วนชั่วโมงเร่งด่วน
- ระวัง!! สถานกงสุลใหญ่ฯ ประกาศเตือนคนไทยในฮ่องกง
- ประท้วงเป็นเหตุ! กิจกรรมธุรกิจฮ่องกง หดตัวเร็วสุดรอบ 21 ปี
- สื่อจีนร้องรัฐใช้ ‘ไม้แข็ง’ ผู้ประท้วงฮ่องกง
- จับตา ‘ประท้วงฮ่องกง’ ต้นเหตุเศรษฐกิจพัง?