World News

เมียนมาจ่อรับอานิสงส์สงครามการค้าจีน-สหรัฐ

เมียนมาจ่อได้อานิสงส์จากสงครามการค้าจีน-สหรัฐ หลังรัฐบาล และมณฑลยูนนาน ของจีน  อยู่ระหว่างเจรจาขั้นสุดท้าย ส่งออกปศุสัตว์ไปยังแดนมังกร รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น

เมียนมาจ่อรับอานิสงส์สงครามการค้าจีน-สหรัฐ

ข้อมูลจากทางการจีน แสดงให้เห็นว่า ชาวจีนบริโภคเนื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องที่ 8.4 ล้านตันต่อปี โดยคาดว่า จีนอาจเปิดทางให้มีการนำเข้าเนื้อจาก 14 ประเทศผู้ส่งออก และมีแนวโน้มสูงที่เมียนมาจะเป็นหนึ่งในนั้น

หนังสือพิมพ์เมียนมา ไทมส์ รายงานด้วยว่า ในขณะนี้ จีนอยู่ระหว่างการตั้งโรงฆ่าสัตว์ใกล้กับเมืองหนานคำ ชายแดนเมียนมา-จีน เพื่อตรวจสอบปศุสัตว์ที่มาจากเมียนมาให้มั่นใจว่า มีสุขภาพที่แข็งแรง และปลอดภัยสำหรับการบริโภค

จ่อ ฮติน รองประธานสหพันธ์ปศุสัตว์เมียนมา เปิดเผยว่า การเจรจาเพื่อเข้าถึงตลาดเนื้อจีนนั้น ดำเนินมาเป็นปีที่ 2 แล้ว

เมื่อเดือนตุลาคม 2560 รัฐบาลเมียนมาจำกัดการส่งออกปศุสัตว์มีชีวิตที่ชายแดนเมียนมา เพราะตามกฎหมายนั้น ปศุสัตว์ถูกจัดให้อยู่ในหมวดของโภคภัณฑ์ที่มีความสำคัญ และปศุสัตว์ที่จะนำไปเชือดได้นั้น จะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 16 ปี ซึ่งในแต่ละเดือนเมียนมาส่งออกปศุสัตว์มีชีวิตไปยังจีนราว 5,000 ตัว

ขณะข้อมูลจากกระทรวงการค้าเมียนมา แสดงให้เห็นว่า นับถึงเดือนมิถุนายนปีนี้ ราคาปศุสัตว์ ในเมียนมาได้ปรับตัวสูงขึ้นจาก 1.28 ล้านจ๊าด มาอยู่ที่ 2.40 ล้านจ๊าด และราคากระบือขยับจาก 1.70 ล้านจ๊าด มาอยู่ที่ 2.30 ล้านจ๊าด

ส่วนราคาเนื้อวัวพุ่งไปอยู่ในระดับมากกว่า 200,000 จ๊าด ทำให้เกิดความกังวลว่า ราคาปศุสัตว์ในตลาดท้องถิ่นอาจจะพุ่งสูงขึ้น เพราะการส่งออกที่มากขึ้นกว่าเดิม

ดอกเตอร์หยาน เนียง โซ อดีตผู้อำนวยการกระทรวงเกษตร ปศุสัตว์ และชลประทาน เมียนมา แสดงความเห็นว่า เรื่องนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเมียนมา ที่จะสร้างสัมพันธ์ทางการค้าปศุสัตว์กับจีน

“ในตอนนี้ จีนกำลังทำสงครามการค้าสหรัฐ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาในด้านนี้ เพราะจีนนำเข้าเนื้่อวัวจากสหรัฐ 6,000 ตัน จึงเป็นโอกาสที่ดีของเมียนมา แต่ก็ต้องระมัดระวังประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ กัมพูชา และลาว ที่อยู่ในแวดวงค้าปศุสัตว์เช่นกัน”

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight