การประท้วง ที่บานปลายจนถึงขั้นเกิดเหตุการณ์ปิดสนามบิน ทำให้สถานะ “หนึ่งในศูนย์กลางการขนส่งสำคัญของเอเชีย” ของ “ฮ่องกง” เสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายไปอย่างยาวนาน
เว็บไซต์นิกเคอิ เอเชียน รีวิว รายงานว่า ช่วงกลางเดือนมิถุนายน ถึงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จำนวนการจองตั๋วเครื่องบินประเทศต่างๆ ในเอเชีย มายังฮ่องกง ร่วงลง 20% ต่อปี และในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ถึงต้นเดือนสิงหาคม ที่การปะทะระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจปราบจลาจลรุนแรงขึ้น ยอดจองตั๋วร่วงลงถึง 33%
ขณะที่ในจีนนั้น บรรดาเอเยนซีท่องเที่ยวก็หันมาใช้บริการสนามบินนานาชาติเสิ่นเจิ้น ซึ่งมีชายแดนอยู่ติดกับฮ่องกงมากขึ้น รวมถึง จีแซดแอล อินเตอร์เนชันแนล ทราเวล เซอร์วิส เอเยนซีท่องเที่ยวรายใหญ่ในมณฑลกวางตุ้ง ที่เลือกจะพาลูกค้าบินตรงมาที่สนามบินเสิ่นเจิ้น เมื่อวางแผนการท่องเที่ยว ทั้งยังให้คำแนะนำไม่ให้เดินทางผ่านมาจากฮ่องกงด้วย
ตามปกติแล้ว ฮ่องกงจะเป็นสนามบินทางเลือกสำหรับแพ็คเกจทัวร์เดินทางไปยังสหรัฐ หรือยุโรป ของจีแซดแอล แต่บริษัทท่องเที่ยวรายนี้ บอกว่า หาลูกค้าได้จำนวนไม่มากพอที่จะไปใช้สนามบินนี้ ในช่วงเวลาที่การประท้วงกำลังเพิ่มความรุนแรงขึ้น
“ถ้าหากว่าเปลี่ยนแล้วราคาไม่ต่างกันมากนัก ฉันก็อาจจะเปลี่ยนเที่ยวบิน เลือกที่จะไปขึ้นเครื่องที่กวางเจา” นักศึกษาจีนรายหนึ่ง ที่กำลังเรียนแพทย์อยู่ในแคนาดาบอก โดยในขณะนี้ เธออยู่ในช่วงปิดเทอม และเดินทางกลับมาบ้านที่มณฑลกวางตุ้ง แต่เธอจองตั๋วเดินทางกลับด้วยเที่ยวบินที่เดินทางออกจากสนามบินฮ่องกง
“ฉันรู้สึกกังวลมากๆ ว่า เครื่องจะขึ้นจากสนามบินฮ่องกงได้โดยไม่เกิดเหตุการณ์อะไรหรือเปล่า” นักศึกษารายนี้ระบุ
นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้น ผู้ประท้วงชาวฮ่องกงก้ได้ออกมาชุมนุมกันทุกๆ สุดสัปดาห์ โดยมีสาเหตุเริ่มแรกมาจากการประท้วงต่อต้านร่างกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองฉบับปรับปรุงใหม่ ที่เปิดทางให้สามารถส่งตัวผู้ต้องสงสัยไปดำเนินคดีที่จีนได้ ซึ่งแม้ว่าคณะผู้บริหารเกาะฮ่องกง จะระงับการนำเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ให้สภาพิจารณาไปแล้ว แต่การประท้วงก็ยังไม่ยุติลงแต่อย่างไป
ซิติค ซิเคียวริตีส์ บริษัทโบรกเกอร์รายใหญ่ของจีน ประเมินว่า หากยังเกิดการชุมนุมประท้วงที่สนามบินขึ้นอีก ก็มีความเป็นไปได้ที่นักเดินทางราว 1 ใน 3 จะหันไปใช้บริการสนามบินเสิ่นเจิ้นแทน โดยราคาหุ้นของการท่าอากาศยานเสิ่นเจิ้นพุ่งสูงขึ้น นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ประท้วงในสนามบินฮ่องกงเป็นครั้งแรก และยังทรงตัวในระดับสูงมาอย่างต่อเนื่อง
หลังจากที่ทางการฮ่องกงมีคำสั่งห้ามชุมนุมที่สนามบินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เที่ยวบินต่างๆ ที่ใช้สนามบินฮ่องกง ก็เริ่มกลับมาให้บริการจนกลับสู่ภาวะปกติแล้ว แต่การที่คำสั่งห้ามดังกล่าวจะหมดอายุลงในวันศุกร์นี้ (23 ส.ค.) ก็ทำให้มีความเสี่ยงที่กลุ่มผู้ประท้วงอาจกลับมายึดสนามบิน ขวางการเช็คอินของผู้โดยสารอีกครั้งในวันเสาร์นี้ (24 ส.ค.)
เมื่อปีที่แล้ว สนามบินฮ่องกงมีนักเดินทางใช้บริการจำนวน 74.51 ล้านคน ทำให้เป็นสนามบินที่มีการเดินทางคั่บคั่งสุดเป็นอันดับ 2 ของจีน และเป็นสนามบินที่คับคั่งสุดเป็นอันดับ 8 ของโลก ส่วนสนามบินเสิ่นเจิ้นนั้น ปัจจุบันติดอยู่ในสนามบินที่มีความคับคั่งสุดเป็นอันดับ 6 ของจีน แต่มีแนวโน้มที่จะมีอันดับเพิ่มสูงขึ้น
