สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันในปี 2562 ผลจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ
นายฟาติห์ ไบรอล ผู้อำนวยการบริหารไออีเอ ระบุว่า สำนักงานได้ทบทวนตัวเลขคาดการณ์ลงมาอยู่ที่ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และอาจปรับลดตัวเลขลงอีกครั้ง หากเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจจีน แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอเพิ่มมากขึ้น
เมื่อปีที่แล้ว ไออีเอ คาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันในปี 2562 จะขยายตัวราว 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ได้ลดตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวลงมาเหลือ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมิถุนายนปีนี้
“จีนกำลังเจอกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ช้าสุดในรอบอย่างน้อย 30 ปี เช่นเดียวกับชาติเศรษฐกิจก้าวหน้าจำนวนหนึ่ง ซึ่งถ้าหากเศรษฐกิจโลกย่ำแย่ลงมากกว่าที่เราสันนิษฐานไว้ เราก็อาจจะต้องพิจารณาตัวเลขคาดการณ์ของเราอีกครั้งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า”
นายไบรอล ชี้ว่า ความต้องการน้ำมันได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ ในช่วงเวลาที่ตลาดกำลังมีน้ำมันล้นตลาดอยู่ จากการที่ผลผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ เพิ่มสูงขึ้น
เขาบอกกด้วยว่า ไออีเอมีความกักงวลต่อความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัฐที่เชื่อมโยงชาติผู้ผลิตน้ำมันแถบอ่าวเปอร์เซีย เข้ากับตลาดในเอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ และที่อื่นๆ
“เราจับตามองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่นั่นอย่างใกล้ชิด และหากว่ามีอะไรเกิดขึ้น เราก็พร้อมที่จะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และเด็ดขาด” นายไบรอลกล่าว พร้อมเสริมว่า ในแต่ละวันมีน้ำมันดิบราว 20 ล้านบาร์เรล หรือราว 1 ใน 3 ของปริมาณการซื้อขายทั่วโลก ขนส่งผ่านทางช่องแคบแห่งนี้
ความตึงเครียดที่เกิดขึ้น ยังทำให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ๆ กำลังมองหาเส้นทางการเดินเรือขนส่งน้ำมันทางเลือกอื่นอยู่ โดยอิรักมีแผนที่จะส่งออกน้ำมันจำนวนมากขึ้นไปยังท่าเรือเซย์ฮัน ของตุรกี และสร้างท่อส่งน้ำมันแห่งใหม่ เพื่อส่งน้ำมันไปยังท่าเรือต่างๆ ในซีเรีย เลบานอน และซาอุดีอาระเบีย ซึ่งผู้อำนวยการบริหารไออีเอ ประเมินว่า ในระยะสั้นมากๆ นั้น ผลกระทบของทางเลือกเหล่านี้จะยังไม่มากนัก
“เราควรคิดถึงทางเลือกต่างๆ และลงมือทำในเรื่องเหล่านี้ ซึ่งจะไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดปัจจุบัน แต่จะมีประโยชน์อย่างมากในระยะกลาง และระยะยาว”
อย่างไรก็ดี เขาประเมินว่า ราคาน้ำมันดิบไม่น่าจะพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะสงครามการค้า และความตึงเครียดที่เกิดขึ้น เรื่องจากมีปริมาณน้ำมันสำรองอยู่เป็นจำนวนมาก