รองผู้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น “มาซาโยชิ อามามิยะ” ย้ำ ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล อย่าง เฟซบุ๊ก ที่มีแผนออกเงินดิจิทัลสกุลใหม่ “ลิบรา” ต้องปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมการฟอกเงิน และบริหารจัดการความเสี่ยง
นายอามามิยะ กล่าวในงานสัมมนารอยเตอร์ส นิวส์เมคเกอร์ วันนี้ (5 ก.ค.)ว่า บริษัทดิจิทัลเหล่านี้จะต้องดำเนินการอย่างมีความรัคบผิดชอบ และปฏิบัติตัวให้สอดคล้องกับกฎระเบียบต่างๆ ในการเป็นผู้บริการชำระเงินที่ปลอดภัย และมีความมั่นคง
เขาบอกด้วยว่า แม้แผนการออกเงินดิจิทัลของเฟซบุ๊ก ยังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินงาน แต่ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ก็ต้องระมัดระวังถึงผลกระทบที่การเคลื่อนไหวทำนองนี้ จะมีต่อระบบธนาคาร และการชำระเงินในประเทศของตัวเอง
“สำหรับลิบราแล้ว เราต้องจำให้ขึ้นใจว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีฐานผู้ใช้งานทั่วโลกเป็นจำนวนมหาศาล”
ความเห็นข้างต้นมีขึ้น หลังเมื่อเดือนที่แล้ว เฟซบุ๊กประกาศแผนเปิดตัวลิบรา ภายในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 ส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะขยายธุรกิจจากโซเชียลมีเดีย ไปสู่การรับชำระเงินดิจิทัล
โครงการใหม่ล่าสุดของเฟซบุ๊ก ยังทำให้นายธนาคารกลางของหลายประเทศในยุโรป ออกมาอ้างถึงความจำเป็นที่จะต้องเข้าไปดูแล เพื่อรับประกันว่า จะไม่สร้างความเสียหายให้กับระบบชำระเงิน หรือถูกใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน
นายอามามิยะ บอกด้วยว่า ในขณะนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น ไม่มีแผนที่จะออกเงินดิจิทัลแต่อย่างใด ส่วนหนึ่งเป็นความไม่แน่นอนที่เงินประเภทนี้จะส่งผลกระทบต่อระบบธนาคารพาณิชย์แบบดั้งเดิม
“ถ้าหากเงินดิจิทัลของธนาคาร เข้าไปแทนที่เงินฝากภาคเอกชน ก็อาจบั่นทอนการดำเนินงานช่องทางการให้สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ และส่งผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจ”
เขายังบอกปัดแนวความคิดที่ว่า ธนาคารกลางสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของนโยบายดอกเบี้ยติดลบ ด้วยการออกเงินดิจิทัล โดยระบุว่า ถ้าหากธนาคารกลางประเทศต่างๆ ออกเงินดิจิทัล และนำนโยบายดอกเบี้ยติดลบมาใช้กับเงินเหล่านี้ ครัวเรือน และบริษัทต่างๆ จะหันไปถือเงินสด เพื่อเลี่ยงไม่ให้โดยเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการถือครองเงินดิจิทัล
“การที่จะแก้ปัญหาดอกเบี้ยในระดับต่ำกว่า 0% นั้น ธนาคารกลางจำเป็นต้องกำจัดเงินสด และการกำจัดเงินสดนี้จะทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านการชำระเงินตกอยู่ในภาวะที่ไม่สะดวกสบายนัก ดังนั้น จึงไม่มีธนาคารกลางรายใดที่จะทำแบบนี้”