บริษัทสหรัฐมากกว่า 600 ราย รวมถึง ยักษ์ใหญ่ค้าปลีก อย่าง วอลมาร์ท อิงค์ และทาร์เก็ต คอร์ป ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องให้แก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการค้ากับจีน ระบุ การขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน ส่งผลกระทบต่อ ธุรกิจ และผู้บริโภคอเมริกัน
จดหมายฉบับดังกล่าวถือเป็นฉบับล่าสุด ในจดหมายเปิดผนึกจำนวนมากที่ส่งถึงรัฐบาลทรัมป์ ภายใต้โครงการ “Tariffs Hurt the Heartland” ซึ่งเป็นโครงการรณรงค์ต่อต้านการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าระดับประเทศ และได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มตัวแทนอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งภาคเกษตร การผลิต ค้าปลีก และเทคโนโลยีมากกว่า 150 กลุ่ม
อย่างไรก็ดี จดหมายฉบับล่าสุดนี้ถือว่ามีความสำคัญ เพราะถูกส่งออกมาในช่วงเวลาที่สหรัฐ และจีนมีความตึงเครียดทางการค้าเพิ่มขึ้น และมีขึ้นก่อนหน้าที่อาจจะมีการพบหารือกันระหว่างทรัมป์ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน นอกรอบการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ชาติ (จี20) ในนครโอซากา ญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 28-29 มิถุนายนนี้ ซึ่งทรัมป์บอกว่า ต้องการคุยกับสีที่นี่ และจะตัดสินใจว่าจะขยายวงจัดเก็บภาษีสินค้าจีนทั้งหมดหรือไม่ หลังจากการประชุมนี้
จดหมายฉบับดังกล่าว ระบุว่า ภาคธุรกิจยังคงกังวลเกี่ยวกับการขึ้่นภาษีแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ที่รุนแรงเพิ่มขึ้น ซึ่งการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าในวงกว้าง ไม่ได้เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่จะเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่ยุติธรรมของจีน โดยภาษีนำเข้าที่ขึ้นมานั้น เป็นสิ่งที่บริษัทต้องเป็นผู้จ่ายโดยตรงไม่ใช่จีน