สเปน และโปรตุเกสกลับมาใช้ไฟฟ้าอีกครั้ง หลังจากเกิดไฟดับใหญ่ ครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ แม้ว่าทางการจะไม่ได้ให้คำอธิบายใด ๆ เกี่ยวกับสาเหตุหรือวิธีป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกก็ตาม
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เหตุไฟฟ้าดับกะทันหัน ทำให้การใช้ไฟฟ้าในสเปนลดลงถึง 60% ในเวลา 5 วินาที ในช่วงเที่ยงของวันจันทร์ที่ผ่านมา (28 เม.ย.) ซึ่ง REE ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการระบบส่งไฟฟ้าของสเปน มองว่า สาเหตุของไฟดับครั้งนี้ ไม่ได้มาจากการโจมตีทางไซเบอร์
REE บอกด้วยว่า ตรวจพบการหยุดทำงานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 2 ครั้ง ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสเปน ซึ่งทำให้ระบบไฟฟ้าไม่เสถียร และนำไปสู่การตัดขาดการเชื่อมต่อกับฝรั่งเศส
ทั้งนี้ สเปน เป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่ที่สุดของยุโรป และเหตุไฟดับครั้งใหญ่นี้ ทำให้เกิดการถกเถียงกันว่า ความไม่แน่นอน ของการจัดหาพลังงานแสงอาทิตย์ หรือพลังงานลม ทำให้ระบบพลังงานของประเทศเปราะบางมากขึ้นหรือไม่
Redeia ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท Red Electrica ได้เตือนในรายงานประจำปีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า บริษัทอาจเสี่ยงต่อ การถูกตัดการเชื่อมต่อ เนื่องจากพลังงานหมุนเวียนมีปริมาณสูง โดยไม่มีขีดความสามารถทางเทคนิคที่จำเป็น สำหรับการตอบสนองที่เหมาะสมเมื่อเผชิญกับความปั่นป่วน
ขณะที่ RBC วาณิชธนกิจชั้นนำ ประเมินว่า มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ ที่จากไฟฟ้าดับครั้งใหญ่นี้ อาจอยู่ระหว่าง 2,250 ล้านยูโร ถึง 4,500 ล้านยูโร พร้อมกล่าวโทษรัฐบาลสเปนที่ประมาทเกินไป เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานในระบบที่ต้องพึ่งพาพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งมีแบตเตอรี่สำรองน้อย
ใช้พลังงานหมนุเวียนได้ แต่ต้องมีพลังงานที่มั่นคงด้วย
ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า หนึ่งในปัญหา คือ การที่มีโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานมั่นคงอย่าง ก๊าซ นิวเคลียร์ และเขื่อน ไม่เพียงพอ ที่จะสามารถรับมือกับพลังงานแสงอาทิตย์ ที่หายจากระบบอย่างรวดเร็วได้
ความไม่มั่นคงดังกล่าวทำให้ความถี่ในระบบ หล่นจาก 50 Hz เหลือ 49.85 Hz ซึ่งอุปกรณ์ต่าง ๆ จะทยอยถูกตัดทิ้งออกจากระบบทันที
ขณะที่ แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมพลังงานไทย แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวว่า แม้จะมีการนำพลังงานหมุนเวียนเข้ามาใช้แล้ว แต่ก็ยังจำเป็นต้องมีพลังงานดั้งเดิมอย่างก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินด้วย
ในการเลือกใช้พลังงานต่าง ๆ ในการผลิตกระแสไฟฟ้านั้น จะพิจารณาพลังงานหมุนเวียนเพราะเรื่องราคาถูกไม่ได้ เนื่องจากพลังงานชนิดนี้ ทำให้ความมั่นคงระบบอ่อนแอลง ต้องมีต้นทุนอีกฝั่งในการเสริมระบบ หรือ เตรียมพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงที่คาดเดาไม่ได้
การที่จะใช้พลังงานหมุนเวียนเข้ามาผลิตไฟฟ้านั้น จะต้องมีกำลังการผลิตไฟฟ้าสำรองให้มากขึ้น ซึ่งการเพิ่มพลังงานหมุนเวียนนั้น ทำให้ กำลังไฟฟ้า (MW) และกำลังการผลิตไฟฟ้าสำรองเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากค่าบริหารจัดการระบบ และการเตรียมความพร้อมสูงขึ้น
อย่างไรก็ดี ไม่ได้หมายความว่าต้นทุนรวมของการจัดหาไฟฟ้า 1 หน่วย จะต้องสูงขึ้นเสมอไป ซึ่งหากสัดส่วนเหมาะสม ค่าไฟก็จะเหมาะสม ระบบก็จะเสถียรภาพ ตอบโจทย์สิ่งแวดล้อมและการลงทุนได้
แหล่งข่าวบอกด้วยว่า เขื่อน เป็นพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ ที่มีความมั่นคงสูง มีราคาถูก จึงเป็นโรงไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ได้เกือบทุกข้อ และเป็นแหล่งพลังงานหลัก ที่เกือบทุกประเทศที่มุ่งเป้าคาร์บอนเป็นกลางพัฒนา และให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ไฟดับใหญ่ในสเปน กระทบพื้นที่ห่างไกล ‘กรีนแลนด์’ ไร้สัญญาณสื่อสารผ่านดาวเทียม
- ยุโรปเจอไฟดับครั้งใหญ่! ‘สเปน-โปรตุเกส’ หนักสุด ประกาศภาวะฉุกเฉิน กระทบระบบขนส่ง-เน็ตล่ม
- ‘แมนฮัตตัน’ เจอไฟดับใหญ่ มืดเกือบทั้งเมือง
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X: https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg