ทางการศรีลังกาสั่งบล็อกเครือข่ายโซเชียลมีเดีย และแอปพลิเคชันส่งข้อความจำนวนหนึ่ง รวมถึง เฟซบุ๊ก และวอทส์แอพ ไว้ชั่วคราว ในวันนี้ (13 พ.ค.) หลังเกิดเหตุดจมตีมัสยิด และธุรกิจที่มีชาวมุสลิมเป็นเจ้า ในเหตุการณ์ความวุ่นวายทางศาสนาครั้งรุนแรงสุด นับแต่เกิดเหตุระเบิดวันอีสเตอร์
รายงานข่าวระบุว่า คำสั่งบล็อกการสื่อสารออนไลน์ดังกล่าว เกิดขึ้นหลังเมื่อวานนี้ (12 พ.ค.)มีผู้คนหลายสิบคน พากันขว้างปาก้อนหินเข้าใส่ร้านค้าของชาวมุสลิม และยังเกิดเหตุรุมทำร้ายชายคนหนึ่ง ในเมืองชิลอว์ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ จากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นบนเฟซบุ๊ก
ขณะเจ้าหน้าที่ระบุว่า ได้ดำเนินการจับกุมผอับดุล ฮามีด โมฮัมเหม็ด ฮาสมาร์ วัย 38 ปี ผู้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า “วันหนึ่งคุณจะต้องร้องไห้” ที่ผู้คนพากันบอกว่า สามารถตีความได้ถึงการข่มขู่สร้างความรุนแรงขึ้นมา
ในช่วงกลางคืนวานนี้ และเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้จับกุมชายกลุ่มหนึ่ง ในเขตคุรุเนกาลา โดยกล่าวหาว่า เป็นผู้ก่อเหตุโจมตีธุรกิจชาวมุสลิม ซึ่งในเวลาต่อมา ผู้คนในเขตดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธได้เรียกร้องให้ตำรวจปล่อยตัวบรรดาผู้ที่ถูกจับตัวไป ส่งผลใหมีการตัดสินใจประกาศเคอร์ฟิว และบล็อกสื่อสังคมไว้ชั่วคราว ในความพยายามที่จะควบคุมสถานการณ์เอาไว้
ทางด้านสภามุสลิมแห่งศรีลังกา เปิดเผยว่า มัสยิด และบ้านเรือนชาวมุสลิมจำนวนมากได้รับความเสียหายจากการโจมตีดังกล่าว
ทั้งนี้ นับแต่เกิดเหตุระเบิดพลีชีพโจมตีโรงแรมหรู และมัสยิดรวม 6 แห่งเมื่อ 3 สัปดาห์ที่แล้ว ชุมชนชาวมุสลิมในศรีลังกา ระบุว่า ได้รับการร้องเรียนอย่างต่อเนื่องในเรื่องที่ผู้คนโดนล่วงละเมิด และคุกคาม
