World News

‘โซลาร์เซลล์จีน’ แห่ย้ายฐานผลิตไป ‘อินโดนีเซีย-ลาว’ เลี่ยงโดนสหรัฐเก็บ ‘ภาษีนำเข้า’

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 4 พฤศจิกายน 2567

บรรดาผู้ผลิตโซลาร์เซลล์จีนในเวียดนาม กำลังปรับลดกำลังการผลิต และเลิกจ้างพนักงานหลายอัตรา และหันไปตั้งฐานการผลิตแห่งใหม่ในอินโดนีเซีย และลาว หลังสหรัฐขยายการจัดเก็บภาษีศุลกากร ให้ครอบคลุมถึงโรงงานในเวียดนาม และอีก 3 ประเทศ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างกัมพูชา มาเลเซีย และไทย

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า อินโดนีเซีย และลาว ไม่ได้มีรายชื่ออยู่ในประเทศที่สหรัฐตั้งเป้าใช้มาตรการจัดเก็บภาษี เพื่อปกป้องการค้าในประเทศ ซึ่งโรงงานที่กำลังเกิดขึ้นใน 2 ประเทศนี้ มีกำลังผลิตมากพอสำหรับการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ประมาณครึ่งหนึ่งที่ติดตั้งในสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว

ที่ผ่านมา บรรดาผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ของจีน ได้ลดกำลังการผลิตในโรงงานที่มีอยู่แล้วอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าสร้างโรงงานใหม่ในประเทศอื่น ๆ ในความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการจัดเก็บภาษีนำเข้าในระดับสูงจากสหรัฐ และยังสามารถครองความเป็นเจ้าตลาดในสหรัฐ และทั่วโลกได้ แม้สหรัฐจะดำเนินความพยายามเรียกเก็บภาษีศุลกากรมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่าทศวรรษแล้วก็ตาม

อย่างไรก็ดี การย้ายฐานการผลิตไปยังอินโดนีเซีย และลาวในระยะล่าสุดนี้ ยังไม่เคยมีการรายงานมาก่อน ซึ่งนายวิลเลียม เอ. ไรน์ช อดีตเจ้าหน้าที่ด้านการค้าในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีบิล คลินตัน และที่ปรึกษาอาวุโสของศูนย์การศึกษากลยุทธ์ และการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหมือนการชิงไหวพริบขนาดใหญ่ โดยการย้ายฐานไม่ใช่เรื่องยาก แค่เตรียมให้เรียบร้อย และเริ่มเล่นอีกครั้งได้เลย ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ สหรัฐมักตามหลังบริษัทเหล่านี้อยู่ 1 ก้าวเสมอ

ทั้งนี้ ข้อมูลจากบริษัทวิจัยเอสพีวี มาร์เก็ต รีเสิร์ช แสดงให้เห็นว่า จีนมีการส่งออกโซลาร์เซลล์ คิดเป็นสัดส่วนราว 80% ของยอดการส่งออกทั่วโลก โดยมีประเทศอื่น ๆ ครองส่วนแบ่งการส่งออกที่เหลืออยู่ แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากเมื่อ 2 ทศวรรษที่แล้ว ซึ่งสหรัฐเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมนี้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่