World News

‘มาเลเซีย’ ตั้งเป้าดึงลงทุนต่างชาติ หนุน ‘สตาร์ทอัพเทคโนโลยี’

“มาเลเซีย” เดินหน้าผลักดัน ดึงเม็ดเงินลงทุนต่างชาติมากขึ้น ในช่วงเวลาที่กำลังเร่งสร้างสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี

เว็บไซต์นิกเคอิ เอเชีย รายงานว่า นายราฟิซี รามลิ รัฐมนตรีเศรษฐกิจมาเลเซีย เปิดเผยนอกรอบงานอีเวนต์ด้านสตาร์ทอัพ ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า รัฐบาลมาเลเซียกำลังมุ่งเน้นไปที่การกระตุ้นการพัฒนาบริษัทเทคโนโลยีที่เพิ่งเกิดใหม่ในประเทศ

“เป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ที่จะต้องนำบริษัทลงทุนด้านเงินทุนระดับกลาง และบริษัทด้านการลงทุนต่าง ๆ จากทั่วโลก เข้ามาสนับสนุนสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี”

ลงทุนต่างชาติ

ที่ผ่านมา มาเลเซียถือเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาอย่างยาวนาน โดยมีบริษัทระดับโลกหลายราย เข้ามาตั้งฐานการดำเนินงาน เช่น อินเทล และแอร์บัส ที่มีโรงงานผลิตอยู่ในประเทศนี้  อย่างไรก็ดี ระบบนิเวศในด้านการการจัดหาเงินทุนสำหรับบริษัทเทคโนโลยีรายใหม่ๆ ของมาเลเซีย ยังล้าหลังประเทศเพื่อนบ้านอยู่

ข้อมูลจากดีลสตรีทเอเชีย แสดงให้เห็นว่า เมื่อปีที่แล้ว บริษัทในสิงคโปร์ และอินโดนีเซีย สามารถดึงเงินลงทุน คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 90% ของเงินลงทุนในสตาร์ทอัพในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวน 7,700 ล้านดอลลาร์ โดยธุรกิจในมาเลเซีย ระดมทุนได้ราว 110 ล้านดอลลาร์เท่านั้น

สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา รัฐบาลมาเลเซียได้เปิดตัวโรดแมป เพื่อการระดมทุนขึ้นมา ในความพยายามที่จะผลักดันให้ประเทศเป็นศูนย์กลางการร่วมลงทุนระดับภูมิภาคภายในปี 2573 ผ่านการออกมาตรการต่างๆ เช่น การปฏิรูปกฎระเบียบ โดยเป้าหมายที่ตั้งไว้ รวมถึง การเพิ่มอัตราการรุกธุรกิจของมาเลเซีย หรือการลงทุนด้านเงินทุนเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขึ้นมาอยู่ี่ 0.25%-0.35% ภายในปี 2573 จากสัดส่วน 0.19% ในปี 2565

เมื่อเร็ว ๆ นี้ มาเลเซียยังได้เปิดตัวโครงการ “Golden Pass” เพื่อดึงดูดบริษัทด้านการลงทุนส่วนบุคคล ผ่านการออกมาตรการจูงใจต่าง ๆ และการยกเว้นภาษี ทั้งนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ก็เคยประกาศก่อนหน้านี้ว่า “คาซายาห์ เนชันแนล” บรรษัทบริหารความมั่งคั่งของรัฐบาล จะจัดตั้งกองทุนมูลค่า 1,000 ล้านริงกิต เพื่อลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีท้องถิ่น

กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติอีก 2 กองทุนของมาเลเซีย คือ องทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงาน และกองทุนเพื่อการเกษียณอายุ รวมถึง บลูชิพ เวนเจอร์ แคปิตัล บริษัทลงทุนท้องถิ่น ยังวางแผนที่จะร่วมกันลงทุน 3,000 ล้านริงกิต เพื่อจัดตั้งกองทุนริเริ่มการเติบโตอาเซียน (ASEAN Growth Initiative Fund) เพื่อรักษาระบบนิเวศสตาร์ทอัพทั้งในมาเลเซีย และในระดับภูมิภาค

ลงทุนต่างชาติ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

Avatar photo