กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) “คริสติน ลาการ์ด” ระบุ การเลื่อนกำหนดเวลาที่อังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ เบร็กซิท ออกไปอีก 6 เดือน ช่วงหลีกลี่ยง “ผลลัพธ์ที่น่ากลัว” ของการเกิดเบร็กซิทแบบไร้ข้อตกลง ที่จะยิ่งสร้างแรงกดดันให้กับเศรษฐกิจโลกที่เติบโตช้าลงอยู่แล้ว แต่ไม่ช่วยขจัดภาวะไร้เสถียรภาพ ต่อผลลัพธ์ขั้นสุดท้ายที่จะออกมา
นางลาการ์ด ระบุว่า การที่ผู้นำอียูเห็นพ้องที่จะให้เวลาอังกฤษอีก 6 เดือน ในการออกจากกลุ่มนั้น อย่างน้อยสหราชอาณาจักรก็จะไม่ต้องออกจากอียูในวันนี้ (12 เม.ย.) แบบไร้ข้อตกลง ถือเป็นการให้เวลาสำหรับการหารืออย่างต่อเนื่องระหว่างฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในสหราชอาณาจักร
นอกจากนี้ ยังอาจเป็นการให้เวลากับองค์กรด้านเศรษฐกิจต่างๆ ที่จะเตรียมพร้อมได้ดีขึ้นสำหรับทางเลือกที่มีอยู่ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหล่าอุตสาหกรรม และแรงงาน เพื่อที่จะสามารถรับประกันถึงอนาคตของพวกเขาได้
ขณะที่นายมาร์ก คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษกล่าวนอกรอบการประชุมประจำปีไอเอ็มเอฟ และธนาคารโลก ที่สหรัฐว่า เบร็กซิททำให้บรรดาธุรกิจอังกฤษ เผชิญกับภาวะไร้เสถียรภาพอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อทั้งการลงทุน และทำให้เกิดความท้าทายในระยะยาว สำหรับผลผลิตทางเศรษฐกิจ
เขาบอกด้วยว่า แม้ตลาดแรงงานจะอยู่ในภาวะตึงตัวอย่างเหลือเชื่อ แต่ธุรกิจก็พากันระงับการลงทุนเอาไว้ตั้งแต่ที่ผลประชาพิจารณ์ออกมา ผู้ว่าแบงก์ชาติอังกฤษบอกว่า แม้ควาเมสี่ยงของการเกิดเบร็กซิทแบบไร้ข้อตกลงจะลดน้อยลง แต่ก็ยังเป็นเรื่องดีที่มีเวลาเพิ่มมากขึ้น
“การยืดเวลาออกไปนี้ ช่วยให้มีเวลามากขึ้นสำหรับกระบวนการทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหราชอาณาจัก ที่จะหาข้อสรุปจากรัฐสภาในเรื่องข้อตกลงให้ได้ เราจะได้เห็นว่า พวกเขาใช้เวลาเหล่านี้ไปอย่างไร”
ความเสี่ยงนอกเหนือจากเบร็กซิท
เบร็กซิทเป็นแค่หนึ่งในปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจจำนวนมาก ที่ทำให้ไอเอ็มเอฟออกมาปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.3% แตะระดับต่ำสุดนับแต่ปี 2559 เป็นต้นมา และคาดว่าจะขยับขึ้นเล็กน้อยในปีหน้าที่ 3.6%
นายเดวิด ลิปตัน รองกรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ ระบุว่า ไอเอ็มเอฟยังไม่ได้คาดการณ์ถึงการเกิดภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก แต่การเติบโตที่ลดลงนี้ทำให้โลกอยู่ในจุดที่มีความละเอียดอ่อนอย่างมาก
“เรามีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะถดถอยอยู่บ้าง” นายลิปตันระบุ