อินโดนีเซีย ประกาศมาตรการจูงใจด้านภาษีชุดใหม่ หนุนการขายรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งที่ผลิตในประเทศ และนำเข้า ในความพยายามครั้งล่าสุด เพื่อเพิ่มการใช้รถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งดึงดูดการลงทุน สานฝันสู่การเป็นศูนย์กลางรถยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน
มาตรการใหม่ล่าสุดนี้ ออกมาหลังเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว อินโดนีเซียได้ออกมาตรการจูงใจทางภาษี สำหรับผู้ผลิตที่นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า (EV) และดำเนินการผลิตในประเทศในปีต่อ ๆ ไป ให้เท่ากับจำนวนการนำเข้า
ภายใต้มาตรการใหม่นี้ อินโดนีเซียจะยกเลิกการจัดเก็บภาษีฟุ่มเฟือยสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ในปีงบประมาณ 2567 และยกเลิกภาษีนำเข้าจนถึงสิ้นปี 2568
นอกจากนี้ยังจะลดภาษีมูลค่าเพิ่มลงเหลือ 1% จาก 11% สำหรับผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในปีนี้ ซึ่งเป็นการขยายการลดหย่อนภาษี ที่หมดอายุลงในสิ้นปี 2566
มาตรการจูงใจข้างต้น มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ควบคู่ไปกับการดึงดูดการลงทุนจากบรรดาผู้ผลิตรถยนต์
ขณะที่ นายรัคมัต ไคมุดดิน รัฐมนตรีช่วยว่าการประสานงาน กำกับดูแลการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า กล่าวว่า นับตั้งแต่รัฐบาลอินโดนีเซีย ประกาศความตั้งใจที่จะออกมาตรการจูงใจต่าง ๆ ก็มีผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหลายราย ที่เปิดเผยแผนการที่จะเปิดตัวรถยนต์ในอินโดนีเซีย
ทั้งนี้ รัฐบาลอินโดนีเซียตั้งเป้าที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้ได้ 600,000 คันภายในปี 2573 หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 100 เท่า ของจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่จำหน่ายในอินโดนีเซียในช่วงครึ่งแรกของปี 2566
นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน โดยใช้ประโยชน์จากนิกเกิล ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญสำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ที่มีอยู่ในอินโดนีเซียเป็นจำนวนมาก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ค่ายรถยนต์ยุโรป’ เจอศึกหนัก เหตุแบรนด์จีนขาย ‘รถยนต์ไฟฟ้า’ ราคาถูก
- BYD ยึดตลาดอาเซียน! ยอดขาย ‘รถไฟฟ้า’ แซงหน้า ‘เทสลา’
- รถไฟฟ้า ‘แบรนด์จีน’ ตั้งเป้า เจาะตลาดยุโรป
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter): https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg